สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากขึ้นจนน่าใจหาย ส่งผลให้การเข้าถึงเตียงเพื่อรับการรักษาเป็นเรื่องที่ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในสภาวะเช่นนี้การปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่าง หรือการสวมหน้ากากอย่างถูกวิธี จึงเป็นเรื่องที่ห้ามละเลย หรือหละหลวมเด็ดขาด อีกทั้งการมีไอเท็มเด็ดเหล่านี้ติดบ้านไว้ก็อาจช่วยให้เราเบาใจเรื่องโควิด-19 ได้มากขึ้น
ไอเท็มเด็ด!! ของมันต้องมีติดบ้านเมื่อยามโควิด-19 ระบาดหนัก
- ยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีเพื่อบรรเทาอาการ
สรรพคุณ : ลดไข้ บรรเทาอาการปวดทั่วๆ ไป
ปริมาณการทาน :
ยาน้ำ
- เด็กน้ำหนักตัวไม่ถึง 10 กก. ทานครั้งละ 60มิลลิกรัม/0.6 มล. หรือ 80 มิลลิกรัม/0.8 มล.
- เด็กน้ำหนักตัว 12 – 15 กก. ทานครั้งละ 120 หรือ 125มิลลิกรัม/ช้อนชา
- เด็กน้ำหนักตัว 16 – 24 กก. ทานครั้งละ 160 มิลลิกรัม/ช้อนชา
- เด็กน้ำหนักตัว 25 – 40 กก. ทานครั้งละ 250 มิลลิกรัม/ช้อนชา
ยาเม็ด ขนาด 500 มิลลิกรัม
- ผู้ใหญ่น้ำหนัก 33-50 กิโลกรัม ทานครั้งละ 1 เม็ด
- ผู้ใหญ่น้ำหนัก 51-67 กิโลกรัม ทานครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง
- ผู้ใหญ่น้ำหนัก 67 กิโลกรัมขึ้นไปทานครั้งละ 2 เม็ด
หมายเหตุ ควรทานยาห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงและไม่ควรทานเกินวันละ 8 เม็ด หรือ 4,000 มิลลิกรัม
ข้อควรระวัง ไม่ทานยาร่วมกับเครื่องดื่มแอลกฮอล์ และหากทานยามากจนเกินไปอาจส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึม ความดันลดลง และในบางรายที่รับประทานเกินขนาดมากๆ อาจส่งผลให้การทำงานของตับและไตเสียได้
สรรพคุณ : บรรเทาอาการไอแบบไม่มีเสมหะ
ปริมาณการทาน :
ยาอม
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี ทานครั้งละ 5 มิลลิกรัม ทุก ๆ 4 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม
- เด็กอายุ 6 – 12 ปี ทานครั้งละ 5-15 มิลลิกรัม ทุก ๆ 2-6 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม
- ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ทานครั้งละ 5-15 มิลลิกรัม ทุก ๆ 2-4 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม
หมายเหตุ ควรรอให้ยาค่อย ๆ ละลายในปากและไม่ควรกลืนทันที
ยาน้ำเชื่อม
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี ทานครั้งละ 3.5 มิลลิกรัม ทุก ๆ 4 ชั่วโมง หรือ 7.5 มิลลิกรัม ทุก ๆ 6-8 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม
- เด็กอายุ 6 – 12 ปี ทานครั้งละ 7 มิลลิกรัม ทุก ๆ 4 ชั่วโมง หรือ15 มิลลิกรัม ทุก ๆ 6-8 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม
- ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ทานครั้งละ 30 มิลลิกรัม ทุก ๆ 6-8 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม
หมายเหตุ ควรใช้ช้อนหรือถ้วยตวงสำหรับตวงยาเท่านั้น เพื่อปริมาณยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวัง : หลังทานยาอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการปวดท้อง ท้องผูก รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
- ยาลดน้ำมูก – คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine)
สรรพคุณ : บรรเทาอาการหวัด รักษาอาการที่เกิดจากภูมิแพ้ และช่วยลดการหลั่งสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก
ปริมาณการทาน :
- ยาเม็ด ยาน้ำเชื่อม (สำหรับอาการหวัด จมูกอักเสบ ภูมิแพ้ ลมพิษ)
- เด็กอายุ 2-5 ปี ทานครั้งละ 1 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกิน 6 มิลลิกรัม/วัน)
- เด็กอายุ 6-11 ปี ทานครั้งละ 2 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกิน 16 มิลลิกรัม/วัน)
- เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ทานครั้งละ 4 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกิน 32 มิลลิกรัม/วัน)
- ผู้ใหญ่ ทานครั้งละ 4 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง (สูงสุดไม่เกิน 32 มิลลิกรัม/วัน)
ข้อควรระวัง : ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม ตาพร่า หรือวิงเวียน
สรรพคุณ : รักษาหรือป้องกันอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น คัดจมูก จาม คันคอ คันจมูก ตาแดงหรือน้ำตาไหล รวมไปถึงรักษาผื่นลมพิษ ผื่นผิวหนัง และอาการคัน
ปริมาณการทาน :
กรณีจมูกอักเสบจากโรคภูมิแพ้
ยาเม็ด
- ผู้ใหญ่ และเด็กอายุ 12 ปีขึ้น ทานครั้งละ 120 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
- เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี ทานครั้งละ 15 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
- เด็กอายุ 2-11 ปี ทานครั้งละ 30 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
กรณีลมพิษ
ยาเม็ด
- ผู้ใหญ่ และเด็กอายุ 12 ปีขึ้น ทานครั้งละ 180 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง หรือ 60 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
- เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี ทานครั้งละ 15 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
- เด็กอายุ 2-11 ปี ทานครั้งละ 30 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
ข้อควรระวัง : หากทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้หัวใจเต้นสูง
หมายเหตุ ยาทั้ง 4 ชนิดนี้ไม่ความสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ แต่สามารถใช้บรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเชื้อโควิด-19 ได้
สรรพคุณ : ช่วยเพิ่มพลังงาน เกลือแร่ และน้ำในร่างกาย ป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่จากอาการท้องเสีย หรือ อาเจียน
วิธีทาน : ชงเกลือแร่ ORS ผสมน้ำต้มสุก น้ำสะอาด จิบเรื่อยๆ ทั้งวัน
หมายเหตุ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตและโรคหัวใจควรปรึกษาแพทย์ก่อน
2.สมุนไพรไทย
- ยาฟ้าทะลายโจร
สรรพคุณ : ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการเจ็บคอเนื่องจากไข้หวัด(common cold) แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการป่วยจากโควิด-19
ปริมาณการทาน : ดูจากสารเอนโดกราฟโฟไลด์ที่อยู่ในยาฟ้าทะลายโจรที่ซื้อมา ซึ่งไม่ควรทานเกิน 180 มิลลิกรัม/วัน ทานติดต่อกัน 5 วัน หรือตามปริมาณที่แนะนำ ดังนี้
- ถ้าแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน
- ถ้าแคปซูลขนาด 500 มิลลิกรัม ทานครั้งละ 3 เม็ดต่อ วันละ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน
- ถ้าแคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม ทานครั้งละ 6 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน
- ถ้าแคปซูลขนาด 350 มิลลิกรัม ทานครั้งละ 5 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน
ข้อควรระวัง :
- ไม่ควรทานยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันเกิน 5 วัน
- คนที่แพ้ฟ้าทะลายโจร หญิงแพ้ท้อง หรือคุณแม่ให้นมบุตรไม่ควรทาน
สรรพคุณ : ช่วยขับลม ปรับการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทางเดินในกระเพาะอาหาร ลดอาการปวดท้องจากท้องเสีย
วิธีการทาน :
- ทานในรูปแบบอาหาร เช่น แกงป่า
- ทานในรูปแบบของเครื่องดื่ม เช่น น้ำสมุนไพร
ข้อควรระวัง : ไม่ควรทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจากกระชายมีฤทธิ์ร้อน อาจส่งผลให้เกิดอาการร้อนในหรือเป็นแผลในปากตามมา อีกทั้งการทานกระชายในปริมาณมากๆ มีผลทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่นและเกิดภาวะใจสั่นได้ จึงไม่ควรใช้ในผู้ที่มีความผิดปกติของตับและไต หญิงตั้งครรภ์
หมายเหตุ การทานสมุนไพรเหล่านนี้ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของยา หรือการนำไปประกอบอาหารนั้นเป็นเพียงการช่วยบรรเทาอาการป่วยเท่านั้น ยังไม่งานวิจัยใดช่วยยืนยันว่าฟ้าทะลายโจร หรือกระชายขาวมีสรรพคุณช่วยในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด
ไอเท็มชิ้นนี้ใครยังไม่มีต้องรีบหามาติดบ้านไว้ด่วนๆ เพราะเจ้าสิ่งนี้สามารถบอกความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ ถ้าความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดสูง กล่าวคือถ้าวัดค่าออกซิเจนได้ 95% ขึ้นไปแสดงว่าอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายยังทำงงานได้ปกติ แต่ถ้าค่าความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำหรือวัดได้ต่ำกว่า 95% แสดงว่าร่างกายของเราอาจจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย และประสิทธิภาพการทำงานของปอด
หากใครที่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในระบบ HI หรือ CI เครื่องวัดออกซิเจนก็จะช่วยชี้ให้ได้รู้ทันทีว่าอาการป่วยของเรานั้นแย่ลงหรือเปล่า หากเห็นท่าไม่ดีก็ให้รีบติดต่อแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน
ในช่วงโควิด-19 นี้ การนั่งวัดไข้อาจกลายเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่ทำกัน ซึ่งการวัดไข้ไม่จำเป็นต้องวัดบ่อยๆ ตลอดทั้งวันควรทำแค่ในช่วงเช้า และเย็นก็พอ ซึ่งอุณหภูมิร่างกายที่วัดได้ไม่ควรเกิน 37.5 องศาเซลเซียส
ประเภทของปรอทวัดไข้ยอดนิยม
- ปรอทวัดไข้แบบธรรมดา หรือ ปรอทวัดไข้แบบแก้ว เป็นปรอทวัดไข้หาซื้อได้ง่าย ราคาสบายกระเป่า และสามารถวัดได้หลายจุดในร่างกาย ได้แก่ ทางปาก ทางรักแร้ ทางทวารหนัก เป็นต้น
- ปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล ใช้งานง่าย ให้ค่าที่แม่นยำ และสามารถวัดได้หลายจุดในร่างกาย ได้แก่ ทางปาก ทางรักแร้ ทางทวารหนัก เป็นต้น
5.Antigen test kit (ATK) เป็นชุดสำหรับตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างง่าย และรวดเร็ว โดยวิธีการนี้จะเก็บตัวอย่างจากทางจมูกหรือจากลำคอมาตรวจหาโปรตีนของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ซึ่งผลของการตรวจจะแม่นยำก็ต่อเมื่อผู้ป่วยรับเชื้อมาแล้ว 5 -14 วัน หรือมีความเข้มข้นของเชื้อไวรัสในระดับที่สูงมากๆ หากอยู่ในระยะฟักตัว หรือเพิ่งได้รับเชื้อมาอาจตรวจไม่เจอ
6.ประกันภัยสุขภาพ หรือประกันภัยโควิด-19
ไอเท็มสุดท้ายนี้อาจไม่ใช้สิ่งที่ควรมีติดบ้าน แต่ควรค่าอย่างยิ่งที่เราจะมีติดตัวไว้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความเปราะบาง และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังคงรุนแรงยังคงรุนแรงต่อเนื่องอยู่เช่นนี้ การมีหลักประกันสุขภาพทางเลือกเพิ่มเติม อย่างประกันสุขภาพ หรือประกันภัยโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นแบบเจอ จ่าย จบ หรือเจอ รักษา จบ ก็อาจช่วยบรรเทาความความกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาจากการเจ็บป่วยด้วยเชื้อโควิด-19 ลงได้บ้าง
อีกทั้งถ้าเราทำประกันสุขภาพไว้ก่อนที่จะป่วยโควิด-19 เบี้ยประกันจะไม่แพงเท่ากับตอนที่ป่วยแล้ว และตัดสินใจอยากทำ เผลอๆ เราอาจไม่มีโอกาสได้ทำประกันสุขภาพเลยก็ก็ได้ เพราะบริษัทประกันอาจปฏิเสธไม่รับทำประกันสุขภาพ ดังนั้นการทำหลักประกันสุขภาพทางเลือกไว้ก็อาจเป็นอีกไอเท็มเด็ดที่จะช่วยให้เราสามารถเอาชีวิตรอดจากภาระค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้
อ่านบทความเกี่ยวกับประกันสุขภาพ
- ประกันสุขภาพแบบไหนที่ใช่เรา
- ประกันสุขภาพเหมาจ่าย และแยกค่ารักษา ต่างกันยังไง แล้วแบบไหนที่ใช่เรา
- เจาะลึก? ประกันสุขภาพทางเลือกแบบไหนช่วยคุ้มภัยจากโควิด-19
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : Mahidol Channel, chulalongkornhospital.go.th, Fanpage:thestandardpop, covid19.dms.go.th, vichaivej-nongkhaem.com, dmh.go.th