เรื่องของการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวไปเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบุคคลที่ต้องสูญเสียไปนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัวอีกด้วยล่ะก็ แย่แน่ๆ เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่บุคคลเหล่านั้นรับผิดชอบอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผ่อนบ้าน ค่าเทอมลูก หรือเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ก็อาจจะตกทอดสู่คนข้างหลังได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เสาหลักของครอบครัวจึงจำเป็นต้องวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดให้ครอบคลุมทุกด้านโดยอาจจะอาศัยเครื่องมือทางการเงินต่างๆ อาทิเช่น ประกันชีวิต
“ประกันชีวิต” เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เราสามารถนำมาใช้บริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันชีวิตซักหนึ่งกรมธรรม์ สิ่งแรกที่เราควรทำความเข้าใจมากที่สุดคือประกันชีวิตชีวิตแต่ละประเภทนั้น แตกต่างกันอย่างไร? เพื่อลดความผิดพลาดในเสียเงินซื้อประกันที่ไม่ได้ตอบโจทย์กับความเสี่ยงที่เรามี หลายคนเริ่มสงสัยแล้วว่าประกันชีวิตหลักๆ ที่เราควรรู้นั้นมีอะไรบ้าง อย่ารอช้า ไปหาคำตอบกันเลย
ประกันชีวิตแบบทั่วไป มีทั้งหมด 6 ประเภท
ประเภทที่ 1 ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance)
คือประกันชีวิตที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด อาทิเช่น 1 ปี 5ปี 10ปี 20 ปี หรือตุ้มครองจนกว่าผู้เอาประกันจะอายุครบตามที่สัญญากำหนด เช่น คุ้มครองจนถึงอายุ 55 ปี เป็นต้น
การชำระเบี้ยประกันสามารถเราเลือกจ่ายแบบครั้งเดียวจบ หรือจ่ายเป็นรายปีเท่ากับระยะเวลาคุ้มครองได้ เช่นกรมธรรม์คุ้มครอง 5 ปี เราก็ชำระเบี้ยประกัน 5 ปี ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเบี้ยประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลามีราคาที่ถูกกว่าเบี้ยประกันชีวิตประเภทอื่นๆ แต่ว่าประกันแบบชั่วระยะเวลานั้นจะไม่มีเงินคืนให้กับผู้เอาประกันเมื่อครบระยะสัญญาคุ้มครอง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นแบบจ่ายทิ้งปีต่อปี ยกเว้นในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตระหว่างที่ประกันยังคุ้มครองอยู่ บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินเอาประกันให้กับผู้รับผลประโยชน์เพื่อเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้น
เหมาะกับใคร? คนที่ต้องการเน้นสร้างความคุ้มครอง และมีงบไม่มาก
คำนิยามประกัน “เบี้ยไม่แพง คุ้มครองสั้น”
ค้นหาประกันชีวิตชั่วระยะเวลาที่ใช่ ในราคาตรงใจได้ที่นี่
ประเภทที่ 2 ประกันแบบระยะยาว (Whole life)
คือเราสามารถต้องชำระเบี้ยประกันไปซักระยะหนึ่ง อาทิเช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี เป็นต้น แต่จะได้รับความคุ้มครองชีวิตแบบตลอดชีพ พูดง่ายๆ ก็คือ ชำระเบี้ยเพียงชั่วเวลาหนึ่ง แต่ได้รับความคุ้มครองตลอดชีพ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแบบประกัน)
สำหรับเบี้ยประกันนั้นก็ไม่ได้สูงมากจนจับต้องไม่ได้ และหากผู้เอาประกันเสียชีวิตในขณะที่กรมธรรม์ยังคุ้มครองอยู่ทางบริษัทประกันก็จะจ่ายเงินเอาประกันให้กับผู้รับประโยชน์เพื่อนำไปใช้เป็นมรดก หรือนำไปใช้ชำระหนี้สินต่างๆ ของ
เหมาะกับใคร? คนที่มีงบประมาณขึ้นมานิดนึง มองหาประกันชีวิตที่เน้นความคุ้มครองในระยะยาว
คำนิยามประกัน “เบี้ยจับต้องได้ คุ้มครองยาว”
ค้นหาประกันชีวิตตลอดชีพที่ใช่ ในราคาตรงใจได้ที่นี่
ประเภทที่ 3 ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment/Saving Insurance)
คือประกันชีวิตที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับบริหารเงินออม ซึ่งเราสามารถเลือกระยะชำระเบี้ยประกันได้ว่าจะชำระแบบสั้น กลาง หรือยาว โดยมีให้เลือกชำระตั้งแต่ 3 ปี ไปจนถึง 30 ปี ถึงแม้ว่าเบี้ยของประกันประเภทนี้จะค่อนข้างมีมูลค่าที่สูง แต่ก็คุ้ม เพราะได้ทั้งการคุ้มครองชีวิต และช่วยเสริมสร้างวินัยการออมเงินให้แก่ผู้ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แถมยังมีเงินคือให้แน่นอนเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่นอีก โดยรูปแบบของเงินคืนมีทั้งในลักษณะของคืนทีเดียวเป็น หรือจะเลือกรับเป็นรายงวดก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของผู้ทำประกัน
เหมาะกับใคร? คนที่เน้นเรื่องความคุ้มค่า(เงินคืน)มากกว่าความคุ้มครอง
คำนิยามประกัน “เบี้ยสูง สร้างวินัยการออม การันตีเงินคืน”
ค้นหาประกันชีวิตสะสมทรัพย์ที่ใช่ ในราคาตรงใจได้ที่นี่
ประเภทที่ 4 ประกันชีวิตแบบบํานาญ (Annuity Insurance)
คือประกันที่มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารการเงินไว้ใช้ยามเกษียณ ซึ่งผู้ทำประกันชีวิตแบบบำนาญจะยังคงได้รับคุ้มครองชีวิตเช่นเดิม และจะมีเพิ่มในส่วนของเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ
สำหรับเบี้ยประกันที่ต้องชำระก็จะสูงเหมือนกับประกันแบบสะสมทรัพย์ และรูปแบบการชำระเบี้ยประกันของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะมีอยู่ 2 ลักษณะคือชำระเบี้ยครั้งเดียวจบ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งได้รับเงินมรดกมา หรือมีเงินก้อนใหญ่แต่ไม่รู้จะเอาไปลงทุนที่ไหน ที่เหลือก็แค่นั่งสบายๆ ชิลๆ รอรับเงินบำนาญตอนเกษียณได้เลย หรือถ้าใครสะดวกชำระเป็นรายงวดเรื่อยๆจนถึงอายุเกษียณ หรือเลือกชำระตามแบบที่ประกันกำหนดก็สามารถทำได้เช่นกัน
การจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ทำประกัน บริษัทจะจ่ายคืนเป็นงวดให้ทุกๆ ปี (บางแบบประกันก็จะมีการจ่ายเงินคือเป็นรายเดือน) โดยเริ่มจ่ายคืนตั้งแต่อายุ 50 ปี 55 ปี หรือ 60 ปี ไปจนถึงเราอายุ 85 ปี หรือ 90 ปี ซึ่งระยะเวลาการจ่ายคืนนั้นก็ขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เราเลือก
เหมาะกับใคร? คนที่ต้องการวางแผนเกษียณแบบเน้นเงินคืนที่แน่นอน
คำนิยามประกัน “เบี้ยสูง ช่วยวางแผนเกษียณ การันตีเงินคืน”
ค้นหาประกันชีวิตบำนาญที่ใช่ ในราคาตรงใจได้ที่นี่
ประกันชีวิตแบบพิเศษ มี 2 ประเภท
ประเภทที่ 5 ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Investment linked life insurance)
ประกันชีวิตอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนซึ่งสูงกว่าแบบประกันชีวิตทั่วไป โดยประกันชีวิตแบบควบการลงทุนสามารถเป็น 2 แบบได้ ดังนี้
แบบยูนิตลิงค์ (Unit Linked)
แบบประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิต และสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
แบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life)
แบบประกันชีวิตที่แยกส่วนความคุ้มครองชีวิต และส่วนการลงทุนอย่างชัดเจน โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไม่น้อยกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำที่บริษัทได้รับรองไว้
เหมาะกับใคร? คนที่ต้องการสร้างความคุ้มครองชีวิต ไปพร้อมกับการลงทุนในกองทุนรวม
คำนิยามประกัน “สร้างความมั่งคั่ง พร้อมดูแลคนที่รัก”
ประเภทที่ 6 ประกันชีวิตแบบผู้สูงอายุ
ประกันชีวิตที่ให้คุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและโรคภัยไข้เจ็บให้กับบุคคลที่มีอายุระหว่าง 50-70 ปี ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าประกันชีวิตประเภทอื่นๆ มักไม่ค่อยรับประกันผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ดังนั้นประกันชีวิตแบบผู้สูงอายุ จึงตอบโจทย์บรรดาปู่ ย่า ตา ยาย อย่างแน่นอน
เงื่อนไขความคุ้มครอง
- จ่ายเฉพาะกรณีเสียชีวิตเท่านั้น (กรณีพิการหรือเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล จะไม่สามารถเบิกค่ารักษาได้ ยกเว้นแต่ซื้อสัญญาเพิ่มเติมพ่วงท้ายไว้ด้วย)
- ถ้าเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บในช่วง 2 ปีแรก บริษัทประกันจะจ่ายคืนเฉพาะเบี้ยประกันที่ชำระแล้ว บวกด้วยผลตอบแทนเพิ่มเติม
- ถ้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุภายในช่วง 2 ปีแรก บริษัทประกันจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยเต็มจำนวน พร้อมเบี้ยประกันที่ชำระแล้ว บวกด้วยผลตอบแทนเพิ่มเติม
- ถ้าเสียชีวิตตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป บริษัทประกันจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยเต็มจำนวนในทุกกรณี ไม่ว่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือจากโรคภัยไข้เจ็บก็ตาม
เหมาะกับใคร? ผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ และต้องการสร้างมรดกไว้ให้ลูกหลาน
คำนิยามประกัน “สร้างมรดกให้ลูกหลานได้ตั้งตัว”
บอกเลยว่าประกันทั้ง 6 ประเภทคือดีมากจริงๆ แต่หลักการซื้อประกันชีวิตที่ดีนอกจากการทำความประเภทประกันแล้ว เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของประกันชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตทุกครั้ง คิดให้ดี คิดให้ลึก ศึกษาให้มั่นใจ ก่อนจ่ายเงินนะคะ ด้วยรัก จาก noon
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : oic.or.th/th, oic.or.th/th/consumer/insurance, oic.or.th/th/education/insurance