“รถยนต์” ยังคงเป็นทรัพย์สินที่คนส่วนใหญ่ต่างก็อยากมีไว้ในครอบครอง เพราะสามารถสร้างประโยชน์ที่มากมาย พร้อมทั้งความสะดวกสบายที่ใครๆ อยากจะมี แต่อย่างที่รู้กันดีว่ารถยนต์ก็เหมือนกับดาบ 2 คมที่นำพามาทั้งข้อดี และข้อเสีย ซึ่งข้อเสียหลักๆก็คือ ความอันตรายที่คาดไม่ถึงอย่าง “อุบัติเหตุบนท้องถนน”
จากผลสำรวจ Global Report on Road Safety 2018 พบว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 32.7 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน หรือมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 22,491 คน (60 คนต่อวัน) ในเมื่ออุบัติเหตุเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การมีเครื่องมือที่สามารถใช้เป็นหลักประกันให้เราพึ่งพาในยามยากอย่าง “ประกันรถยนต์” ก็อาจเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้
“การทำประกันรถยนต์” คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับเรื่องความคุ้มครองที่จะได้รับมากกว่าข้อยกเว้น หรือกรณีที่ประกันไม่คุ้มครอง ซึ่งข้อมูลนี้โดยทั่วไปแล้วตัวแทน หรือโบรกเกอร์มักไม่ค่อยบอกกับผู้ซื้อ เพราะสามารถอ่านเองได้จากเล่มกรมธรรม์ แต่ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างเยอะ และใช้ภาษากฎหมายที่ยากต่อการเข้าใจส่งผลให้ผู้ทำประกันบางรายละเลยที่จะอ่าน ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียสิทธิประโยชน์มากมายที่ผู้ทำประกันรถยนต์ควรได้รับ
กรณีที่ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง
กรณีที่ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองสามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ ดังนี้
1.หมวดเงื่อนไขทั่วไป
ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองความเสียหายทั้งทางตรง และทางอ้อมที่เกิดจากกรณีเหล่านี้
- สงคราม การรุกราน การกระทําของชาติศัตรู การสู้รบ หรือการปฏิบัติการที่มีลักษณะเป็น การทําสงคราม
- สงครามกลางเมือง การแข็งข้อของทหาร การกบฏ การปฏิวัติ การต่อต้านรัฐบาล การยึด อํานาจการปกครองโดยกําลังทหาร หรือโดยประการอื่น ประชาชนก่อความวุ่นวายถึงขนาดหรือเท่ากับ การลุกฮือต่อต้านรัฐบาล
- วัตถุอาวุธปรมาณู
- การแตกตัวของประจุ การแผ่รังสี การกระทบกับกัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงปรมาณู หรือกากปรมาณูอันเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงปรมาณู
2.หมวดความคุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองความรับผิดที่เกิดจากกรณีเหล่านี้
- การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตคุ้มครอง
- การใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย เช่น ไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยาเสพติด เป็นต้น
- การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
- การใช้รถยนต์ลากจูงหรือผลักดัน ยกเว้นในกรณีรถที่ถูกผลักดัน หรือลากจูงได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทด้วย หรือเป็นรถลากจูงตามใบจดทะเบียน หรือรถที่มีระบบห้ามล้อเชื่อมโยงถึงกัน
- ความรับผิดซึ่งเกิดจากสัญญาที่ผู้ขับขี่ทําขึ้น กล่าวคือเซ็นต์ยอมรับว่าตนเองได้กระทำผิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- การขับขี่ในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
3.หมวดความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์
ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองความเสียหายที่จากกรณีเหล่านี้
- การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์
- การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ หรือการเสียหรือการหยุดเดินของเครื่องจักร กลไก หรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์ที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายโดยตรงต่อรถยนต์ที่เกิดจากการบรรทุกน้ำหนัก หรือจํานวนผู้โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต
- ความเสียหายต่อยางรถยนต์ ที่มาจากการฉีกขาด หรือการระเบิด
- ความเสียหายที่เกิดจากการไม่ได้ใช้รถยนต์เป็นเวลานาน ยกเว้นกรณีที่ต้องรอคิวซ่อม หรือเกิดความล่าช้าในการซ่อม
- การขับขี่โดยบุคคลที่ไม่มีใบขับขี่รถยนต์
หมายเหตุ แต่ในกรณีที่เป็นการประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ “การขับขี่โดยบุคคลที่ไม่มีใบขับขี่รถยนต์” แต่ผู้ขับขี่คนนั้นถูกระบุชื่อในกรมธรรม์ จะถือว่าเป็นข้อยกเว้น
การรู้ข้อมูลเกี่ยวข้อยกเว้น หรือกรณีที่ประกันไม่คุ้มครองจะช่วยให้ผู้ทำประกันสามารถหลีกเลี่ยงการกระทำ หรือสถานการณ์ที่ทำให้ประกันรถยนต์ไม่ก่อประโยชน์อะไร และอาจทำให้คุณต้องเสียเงินจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น
ขอบคุณหล่งข้อมูล : thairath.co.th, frank.co.th