2 นาที

มาตรการ “ช้อปดีมีคืน2566” คุ้มไหมถ้าอยากใช้สิทธิ

แชร์

“ช้อปดีมีคืน 2566” คือมาตรการลดหย่อนภาษีของปี 66 ที่ออกแบบมาเอาใจมนุษย์เงินเดือนสายช้อปปิ้งอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะได้ซื้อสิ่งของที่ต้องการแล้วยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีของปี 66 ได้อีกด้วย ซึ่งเงื่อนไข และรายละเอียดของรายการลดหย่อนภาษี “ช้อปดีมีคืน2566”นั้นจะเป็นอย่างไร และจะคุ้มไหมถ้าใช้เต็มสิทธิเลย เราสรุปมาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว

Q1: ช้อปดีมีคืนเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อไหร่ 
A1: เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2566  
Q2: ใครมีสิทธิ์ใช้ "ช้อปดีมีคืน" บ้าง ? 
A2:  ผู้มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
Q3: "ช้อปดีมีคืน" ลดหย่อนภาษีท่าไหร่ 
A3: ตามที่ซื้อจริง หรือไม่เกิน 40,000 บาท 
Q4: เงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจาก "ช้อปดีมีคืน 
A4: สามารถนำค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายจริงไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2566 โดยการซื้อสินค้า หรือบริการทั้งหมดจะต้องเป็นการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 และต้องขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบด้วยทุกครั้ง โดยใบกำกับภาษีสามารถขอได้ทั้งแบบกระดาษ และแบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Tax Invoice & e-Receipt ) ซึ่งมีเกณฑ์ ดังนี้
  1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาทแรก จะต้องมีใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษหรือใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร 
  2. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาทที่เหลือ จะต้องมีใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น 
Q5: สินค้า หรือบริการอะไรบ้างที่เข้าร่วมมาตการ “ช้อปดีมีคืน 2566” 
A5:   สินค้าหรือบริการที่เข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนมีอยู่ด้วยกันกลักๆ 3 ประเภทคือ 
สินค้า/บริการประเภทใบเสร็จรับเงิน
สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ (กระดาษ) หรือ e-Tax Invoice & e-Receipt
หนังสือ และค่าบริการหนังสือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ebooks) ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ (กระดาษ) หรือ e-Receipt
สินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน  ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ (กระดาษ)/ใบเสร็จรับเงิน (กระดาษ) หรือ e-Tax Invoice & e-Receipt
Q6: สินค้า หรือบริการที่ไม่เข้าร่วมมาตการ “ช้อปดีมีคืน” 
A6: สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนมีทั้งหมด 18 รายการ ดังนี้ 
  1. ค่าสุรา เบียร์ ไวน์ 
  2. ค่ายาสูบ 
  3. ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ 
  4. ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร (ทั้งแบบกระดาษ และอิเล็กทรอนิกส์)
  5. ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ 
  6. ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม 
  7. ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า 
  8. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย 
  9. ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ 
  10. ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต 
  11. ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว เช่นเบี้ยประกันชีวิต
  12. สินค้าหรือบริการที่ไม่มี VAT(ยกเว้นหนังสือกับ OTOP)
  13. ทองคำแเท่ง
  14. ค่ารักษาพยาบาล
  15. ค่าทำศัลยกรรม
  16. ผักผลไม้สด
  17. เนื้อสัตว์สด
  18. หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์
Q8: คุ้มไหมถ้าอยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจาก “ช้อปดีมีคืน 2566” 
A8:  คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่ายิ่งซื้อเยอะเท่าไหร่ก็จะได้ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วต้องดูด้วยว่าเราเสียภาษีในอัตราภาษีที่เท่าไหร่  
ยกตัวอย่างเช่น นาย noon มีเงินได้สุทธิ 300,000 บาท ซึ่งอยู่ในขั้นบันไดอัตราภาษี 5% ซึ่งจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” สูงสุดเพียง 2,500 บาทเท่านั้น ต่อให้จ่ายเงินค่าช้อปปิ้งไปเต็มๆ 40,000 บาทก็ตาม  
เงินได้สุทธิ อัตราภาษี สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 
ไม่เกิน 150,000 5% ไม่เสียภาษี ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิ
จากมาตรการช้อปดีมีคืน 
มากกว่า  150,000   -     300,000 5% 2,000 
มากกว่า 300,000   -     500,000 10% 4,000 
มากกว่า 500,000   -     750,000 15% 6,000
มากกว่า 750,000   –  1,000,000 20% 8,000 
มากกว่า 1,000,000  -  2,000,000 25% 10,000 
มากกว่า 2,000,000  -  5,000,000 30% 12,000 
มากกว่า 5,000,000  ขึ้นไป 35% 14,500 หรือมากกว่า 
วิธีคำนวณหามูลค่าลดหย่อนภาษีจากมาตการ “ช้อปดีมีคืน 2566” 
[เงินได้สุทธิ – 150,000 (เงินได้ที่สรรพากรยกเว้น)] – อัตราภาษี = มูลค่าลดหย่อนภาษี
ของแถมทิ้งท้าย
รายชื่อผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Tax Invoice & e-Receipt ) Click here
จากมาตการ “ช้อปดีมีคืน 2566” หากอยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ให้คุ้มค่า เรื่องแรกที่จำเป็นต้องรู้เลยคือตัวเรานั้นนั้นเสียภาษีในอัตราภาษีที่เท่าไหร่ จะได้ไม่ช้อปเพลินจนเกินสิทธฺ แต่ถ้าใครยังไม่มีแพลนที่จะซื้ออะไร ประกันชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะนอกจะได้ช่วยลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 100,000 บาทแล้วยังเก็บไว้เป็นมรดกให้แก่คนที่รักในยามที่เกิดเหตุไม่คาดฝันได้ด้วย
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : itax.in.th, TaxBugnoms, กรมสรรพากร

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สร้างความสัมพันธ์ ขยายโอกาสในการขายให้ยั่งยืนด้วย 5 เครื่องมือนี้

สร้างความสัมพันธ์ ขยายโอกาสในการขายให้ยั่งยืนด้วย 5 เครื่องมือนี้

5 ข้อควรรู้ก่อนเคลมกระเป๋าเดินทาง

การเตรียมตัวข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเคลมกระเป๋าเดินทางจึงถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันนี้ได้อย่างไม่ตื่นตระหนดตกใจจนเกินไป เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้จะแนะนำ 5 ข้อควรรู้ก่อนเคลมกระเป๋าเดินทาง เพื่อช่วยให้คุณเคลมได้อย่างถูกต้องและไม่เสียผลประโยชน์ใดไปโดยไม่รู้ตัว