เข้าสู่ช่วงปิดเทอมของหลายๆ โรงเรียนแล้ว พ่อแม่หลายท่านคงกังวลไม่น้อย เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ที่ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และอาจส่งผลให้ความปลอดภัยทางสุขภาพของลูกๆ อยู่ในความเสี่ยง เพื่อคลายความกังวลเหล่านั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดีๆ ในการดูลูกน้อยให้ปลอดภัยจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในช่วงปิดเทอมนี้กัน
วิธีที่ 1 หลีกเลี่ยงสถานที่คนพลุกพล่าน
ช่วงปิดเทอมทีไร กิจกรรมสุดโปรดของบรรดาลูกๆ ทั้งหลายคงหนีไม่พ้นการพาออกไปเที่ยวนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก สานน้ำต่างๆ หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้า แต่ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้คุณพ่อและคุณแม่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพราะลูกรักจะต้องออกไปเจอกับผู้คนเป็นจำนวนมาก ทางที่ดีพาลูกๆ ไปเที่ยวในสถานที่ปลอดโปร่งหรืออยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจก็น่าจะดีกว่า
วิธีที่ 2 สอนให้ลูกรักความสะอาด
“ล้างมือเถอะลูก ล้างมือบ่อยๆ” วลีนี้ควรสอนเด็กๆ เป็นอย่างยิ่งเพราะเด็กน้อยมักจะชอบจับหน้า จับตาและจับปากบ่อย ดังนั้นเพื่อเป็นการกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปในร่างกายก็ต้องไม่จับหน้า จับตา แต่ทางออกที่ดีที่สุดคือล้างมือให้สะอาดและถูกวิธีถึงจะขจัดเชื้อไวรัสได้ในแบบที่สะอาดเอี่ยมกว่าเจลแอลกอฮอลและอย่าลืมเตือนให้ลูกน้อยปิดปากเวลาจามอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ไปสู่คนอื่น แต่โปรดจดจำไว้เสมอว่าการปลูกฝังนิสัยรักสะอาดในเด็กอาจจะยาก ดังนั้นต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้ลูกต้องเผชิญกับเชื้อโรคต่างๆ จากการซนของเด็กๆ เอง
วิธีที่ 3 เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก
เมื่อสอนลูกแล้วก็อย่าลืมทำทุกอย่างตามที่สอนให้ลูกน้อยดู เพราะลูกน้อยจะซึมซับวิธีล้างมือให้สะอาดจากคุณแล้วก็ต้องยืนยันกับลูกเสมอว่าคุณยังปลอดภัยดี เนื่องจากลูกอาจจะเป็นห่วงคุณพ่อหรือคุณแม่ได้เพราะข่าวที่ได้ยินมา อย่าตื่นตระหนกเวลารับรู้อะไรหรือมีเหตุคับขันเกิดขึ้นใกล้ตัว อย่าลืมทำให้ลูกมั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยหากรักษาความสะอาดและดูแลตัวเองอย่างดีและต้องบอกความจริงกับลูกอย่างใจเย็นหากเกิดเรื่องราวที่ยากจะควบคุมขึ้น
วิธีที่ 4 ทำความสะอาดบ้านไม่ให้ขาด
เราไม่รู้ว่าระหว่างวันนั้นลูกบิดประตู ด้ามจับตู้เย็น ห้องน้ำหรือกระทั่งโทรศัพท์จะโดนมือใครในครอบครัวที่ออกจากบ้านไปเจอความเสี่ยงมาบ้าง ดังนั้นสิ่งที่พอจะทำได้ในช่วงปิดเทอมเพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยคือการเช็ดและทำความสะอาดด้วยสบู่หรือน้ำยาต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ติดเชื้อไวรัสที่มาจากข้างนอกได้
วิธีที่ 5 เฝ้าสังเกตอาการโรคโควิด-19 อยู่เสมอ
โควิด-19 ไม่ใช่ไข้หวัด ถึงแม้อาการจะคล้ายกัน อัตราการเสียชีวิตของโควิด-19 นั้นมากกว่าไข้หวัดถึง 2.2% อ้างอิงจาก New York Times และมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็แตกต่างไปตามสภาพแวดล้อม อาการคล้ายกันของไข้หวัดและโควิด-19 นั้นจะมี ที่มีไข้สูง ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว อ่อนเพลีย น้ำมูกไกลและท้องเสีย แต่โควิดจำนวนมากนั้นมีอาการหายใจหอบซึ่งคนที่เป็นไข้หวัดเพียงแค่บางคนเท่านั้นที่จะมีอาการแทรกซ้อนเหมือนปอดบวมเช่นนี้ อาการของโรคนั้นคล้ายคลึงกัน การดูเพียงอาการอย่างเดียวจึงยากแต่ก็อยากแนะนำแนวทางให้ผู้ปกครองระวังอาการดังต่อไปนี้และรีบพาไปหาหมอทันทีเมื่อมีอาการ
อาการที่ควรระวัง
- มีไข้สูง
- ไอรุนแรงเรื้อรัง
- หายใจหอบ
- กล้ามเนื้อบริเวณซี่โครงไม่ปกติเวลาหายใจ
- หายใจแล้วจมูกขยายผิดปกติ
- ขาดน้ำ
- ไม่ปัสสาวะเป็นเวลา 8 ถึง 12 ชั่วโมง
- ร้องไห้ไม่มีน้ำตา
- อ่อนเพลียผิดปกติ
วิธีการทั้งหมดเป็นข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวกับลูกๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ จะเห็นได้ว่าหัวข้อนั้นมีไม่มากแต่หากทำได้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในยามมีเชื้อไวรัสใดๆ ก็ตามระบาด ไม่ใช่เฉพาะแค่โควิด-19
ถึงอย่างไรก็ตาม Dr.Murray ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อในเด็กกล่าวไว้ว่าเด็กนั้นมีโอกาสและมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อไวรัสในแบบที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่ซึ่งตรงกับบันทึกในปัจจุบันนี้ว่าเด็กอายุ 0 – 9 ขวบนั้นมีอัตราการเข้าโรงพยาบาลน้อยมากเมื่อเที่ยบกับผู้ใหญ่ที่สุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะความเสี่ยงไม่เคยทักทายก่อนเข้ามาในชีวิต
ยิ่งโรคโควิด-19 นั้นได้รับประกาศว่าเป็นโรคระบาดร้ายแรงและอยู่ในช่วงแพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว ช่วงนี้นี่เองที่เป็นช่วงสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองมากที่สุด ท่องไว้ให้เด็กๆ รู้ว่าการล้างมือและดูแลตัวเองยามออกจากบ้านนั้นเป็นเครื่องป้องกันที่ดีที่สุด หลังจากที่โรคโควิด-19 นั้นบรรเทาลงแล้วจึงจะกลายเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่โลกฟื้นตัวขึ้นจากความเสียหาย ดังนั้นอย่าเพิ่งหมดหวังไปเสียทีเดียว ดูแลตัวเอง รักษาความสะอาดและคอยเป็นกำลังใจให้ลูกๆ รวมถึงตัวเองเพื่อวันที่โลกใบนี้หายป่วยนั่นเอง
infographic – ปิดเทอมนี้ดูแลลูกอย่างไรให้ปลอดภัยจาก COVID-19
ขอบคุณที่มาดี๊ดี: medicine.yale.edu, cdc.gov, kidshealth.org, weforum.org, redcross.org