1 นาที

“AI ส่งผลอย่างไรกับธุรกิจประกันภัย?

แชร์

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ได้เข้ามาปฏิวัติกระบวนการทำงานของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว รวมถึงธุรกิจประกันภัยด้วยก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเคลมประกันภัยไปจนถึงการดำเนินการเรียกร้องสินไหมทดแทน  และสิ่งนี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดขายประกันภัยอย่างมีนัยสำคัญ มาดูกันดีกว่าว่า AI ส่งผลต่อการขายประกันภัยและอนาคตของภาคอุตสาหกรรมอย่างไร

การยกระดับประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ
ปัจจุบันบริษัทประกันภัยใช้แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้สามารถช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แชทบอทเหล่านี้สามารถตอบคำถามง่าย ๆ และช่วยลูกค้ายื่นเรื่องเคลมประกัน ทำให้กระบวนการดำเนินการมีความรวดเร็วและสะดวกสบายขึ้นสำหรับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งยังช่วยลดระยะเวลาที่ลูกค้าต้องรอ ส่งผลให้อัตราความพึงพอใจของลูกค้าสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในปรับแต่งข้อเสนอประกันภัยสำหรับลูกค้าเป็นรายบุคคล โดยพิจารณาจากข้อมูลของลูกค้า พฤติกรรมการขับขี่ ลักษณะการใช้จ่าย และบันทึกสุขภาพ อัลกอริธึม AI สามารถปรับแต่งกรมธรรม์ประกันภัยให้ตรงตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าได้ ซึ่งอาจนำไปสู่กลยุทธ์การกำหนดราคาที่มีการแข่งขันมากขึ้นสำหรับบริษัทประกันภัย รวมถึงอัตราการรักษาลูกค้าที่สูงขึ้น
การประเมินความเสี่ยงแม่นยำขึ้น
โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่รับประกันภัยจะอาศัยข้อมูลในอดีตของลูกค้าเพื่อประเมินความเสี่ยงและกำหนดเบี้ยประกัน แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก AI เจ้าหน้าที่รับประกันภัยสามารถใช้การวิเคราะห์แบบพยากรณ์ (Predictive analytics) เพื่อจัดเรียงข้อมูลจำนวนมากได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งหมายความว่าบริษัทประกันภัยสามารถเสนอราคาแข่งขันกันได้มากขึ้นและยังครอบคลุมความเสี่ยงที่กว้างขึ้น
การจัดการการเคลมประกันที่คล่องตัว
บริษัทประกันภัยใช้ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ระบุการฉ้อโกงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระงานของผู้ประเมินค่าสินไหมทดแทนเท่านั้น แต่ยังช่วยเร่งกระบวนการทั้งหมดให้เร็วขึ้นและสามารถช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้
ในปัจจุบันอิทธิพลของ AI เข้ามามีผลต่อการขายประกันภัยเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต เห็นได้ชัดว่า AI จะมีบทบาทสำคัญในการขายประกันภัยในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับแอปพลิเคชัน Friday ถึงแม้จะยังไม่ได้มีการนำ ai มาใช้งานบนแอป แต่เราก็ได้นำแนวคิดนี้มาใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Friday โดยหวังให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานผ่อนภาระงานของตัวแทนประกันและที่ปรึกษาทางการเงินให้เบาลง อาทิเช่น ช่วยสรุปกรมธรรม์ของลูกค้า ช่วยวางแผนการเงิน เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตามต่อให้ AI และเทคโนโลยีจะดีแค่ไหนทุกคนก็ยังจำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นของการใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ เช่น ความเสี่ยงที่คนจะถูกแทนที่โดย AI  และความจำเป็นต่อความรับผิดชอบในการจัดการข้อมูล
ทำความรู้จัก Friday แอปพลิเคชันเลขาดิจิทัลของตัวแทนประกันมือโปร ได้ที่นี่ friday

แปลจาก https://www.linkedin.com

เรียบเรียงโดย ทีมงาน friday

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

น้ำท่วมบ้านเสียหายหนัก เคลมประกันภัยบ้านอย่างไรดี

ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมเฉียบพลันเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถสร้างความสูญเสีย "บ้าน” ของเราได้อย่างมากมาย แต่ถ้าใครที่ทำประกันภัยบ้านไว้ก็ก็ไม่ต้องกังวล เพราะประกันนี้จะช่วยเราแบ่งเบาภาระค่าซ่อมแซมบ้านให้ ซึ่งวิธีการเคลมประกันภัยบ้านนั้นก็ง่ายแสนง่ายมีเพียง 7 ขั้นตอนเท่านั้น

เริ่มทำประกันสุขภาพตอนไหนดี?

การทำประกันสุขภาพถือเป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางชีวิตและการเงินที่มีผลประโยชน์ในระยะยาว แต่จะเวลาไหนถึงควรจะทำประกันสุขภาพดีล่ะ? พอไปปรึกษาเพื่อนหรือครอบครัว บางคนก็บอกว่าให้ทำประกันตั้งแต่เด็กเลยเพราะเบี้ยน้อย บางคนก็บอกว่ารอให้มีทุนก่อนดีกว่าไม่อย่างนั้นอาจจะเข้าเนื้อ คิดไปคิดมาก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าแล้วมันควรทำตอนไหนดี วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปดูแนวทางที่ใช้พิจารณาในการตัดสินใจเริ่มทำประกันสุขภาพกันเพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดกันค่ะ