ถ้าให้พูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม หัวข้อแรกๆ ที่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงก็คือภาวะโลกร้อน แต่รู้ไหมคะว่ายังมีอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนั้นคือ บรรดานักรณรงค์ หรือนักเคลื่อนไหวสายสิ่งแวดล้อมที่เปรียบเสมือนเป็นกระบอกเสียงให้กับธรรมชาติ คอยบอกเล่าเรื่องราวของผลกระทบอันน่าสะพรึงกลัวหากมนุษย์ยังคงเบียดเบียนธรรมชาติต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะมีความสำคัญต่อโลก แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักพวกเขา ดังนั้นเพื่อให้บทความนี้ได้เป็นแรงบันดาลใจแก่ทุกคนอินชัวรี่จะพาไปรู้จักกับตัวอย่างของนักเคลื่อนไหวสายสิ่งแวดล้อมกันค่ะ รับรองว่าหลังจากอ่านจบแล้วหัวใจของเราจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างแน่นอน
รายชื่อนักเคลื่อนไหวสายสิ่งแวดล้อมที่เราควรรู้
สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ “เกรตา ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) ”
สาวน้อยวัย 16 ปีจากสวีเดนผู้แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนที่แก้ปัญหาไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม
เธอเริ่มต้นเส้นทางของนักรณรงค์ครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 15 ปี ด้วยการหยุดเรียนและไปนั่งประท้วงอยู่หน้ารัฐสภาในกรุงสต๊อกโฮล์ม เรียกร้องให้ “บรรดาผู้นำประเทศทั้งหลายออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือโลก” และขอร้องให้เยาวชนทุกคนออกมาร่วมเป็นกระบอกเสียงด้วยกันกับเธอ จนนำไปสู่แคมเปญ “Fridays for Future” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียวก็มีเยาวชนกว่า 1 ล้านคนทั่วโลกเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเธอ
เกรตาเป็นสาวน้อยที่น่ามหัศจรรย์มาก เพราะเธอไม่เคยหยุดยอมแพ้ พยายามเดินหน้าสร้างแคมเปญต่างๆ เพื่อช่วยเหลือโลก และพูดปลุกใจให้ทุกคนตระหนักถึงความร้ายแรงของวิกฤติเรื่องความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอยู่เสมอๆ อาจพูดได้เต็มปากเลยว่า สาวน้อยคนนี้คือ wonder young women ตัวจริง เสียงจริงอย่างแน่นอน
วลีสีเขียว “เราใช้เวลากว่า 30 ปีในการพูดให้กำลังใจกัน ขายฝันต่างๆ นานาว่าวิธีนู้น หรือวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้ เสียใจด้วยค่ะ มันไม่ประโยชน์อะไรเลย เพราะถ้ามันมีประโยชน์จริงการปล่อยมลพิษก็คงหมดไปนานแล้ว ความหวังอาจเป็นสิ่งจำเป็นต่อเรา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการลงมือทำเมื่อเราลงมือทำความหวังก็จะเกิดขึ้นเอง อย่ามัวแต่นั่งแต่รอความหวัง ลงมือทำเสียเลยดีกว่า”
Iconic of thailand young environmentalists
“ลิลลี่ – ด.ญ. ระริน สถิตธนาสาร”
ในประเทศไทยจะมีเด็กวัย 11 ขวบซักกี่คนที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง แต่วันนี้เด็กน้อยคนนั้นได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว นั้นก็คือ “น้องลิลลี่” เด็กน้อยพลังสีเขียว เธอได้เสนอแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับภาครัฐ และเอกชนมากมาย อาทิเช่น ขอให้มีวิชาสิ่งแวดล้อมในหลักสูตรโรงเรียน และผลักดันให้มี Green brand ขึ้นในโรงงาน และอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญราคาก็ต้องไม่สูงด้วย เป็นต้น อินชัวรี่วังว่าการกระทำจากคนตัวเล็กๆ ของสาวน้อยคนนี้จะส่งไปถึงคนไทยทุกคนให้ลุกขึ้นมารักษ์โลกกันมากขึ้นนะคะ
วลีสีเขียว “เราต้องเปลี่ยนโลกเราเพราะว่า โลกเรากำลังถูกทำร้ายอยู่ค่ะ”
เดวิด ออ (David Orr) ผู้เปลี่ยนโลกด้วย Oberlin Project
เดวิด ออ เป็นนักเคลื่อนไหวสายสิ่งแวดล้อมเขียนหนังสือมากมายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของปัญหาสิ่งแวดล้อม และทั้งยังเดินทางไปรอบโลกเพื่อกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับวิกฤติเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างไม่ย่อท้อ อีกทั้งความพยายามอันแรงกล้าของผู้ชายคนนี้ก็ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาไปเตะตาพอล อาจารย์ผู้สอนวิชาการเมือง และสิ่งแวดล้อมประจำวิทยาลัยโอเบอร์ลินเข้าให้ พวกเขาได้ร่วมกันสร้างโปรเจค “โอเบอร์ลิน” ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือ การเปลี่ยนวิทยาลัย และบ้านเมืองให้เป็นชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่นั้นพื้นที่แค่นี้คงไม่เพียงพอ เดวิดจึงได้เชื้อเชิญให้วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยกว่า 100 แห่งมาเข้าร่วมในโปรเจคโอเบอร์ลินด้วยกัน และหวังว่าพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นจะช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาได้อย่างชะงัก
ผู้ชายคนนี้ทำให้เราเห็นว่าถึงแม้จะเริ่มต้นแค่เพียงหนึ่ง แต่ในระหว่างทางอาจจะมีคนอีกเป็น 100 พร้อมที่จะเดินไปกับเราเสมอ
วลีสีเขียว “เมื่อเราสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับโลก ก็เหมือนกับเราสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับตัวเองด้วย
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่เราทุกคนต่างรับรู้ว่ามันกำลังแย่ และค่อยๆ เข้าสู่ขั้นวิกฤติ แต่คนเราก็ยังดำเนินชีวิตด้วยพฤติกรรมแบบเดิมๆ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรกันสักที ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินแก่เราทุกคนจงเอาแรงฮึกเหิมจากนักเคลื่อนไหวสายสิ่งแวดล้อมทั้งหลายมาเป็นแรงผลักดันในการเปลี่ยนโลกให้เขียวขึ้นกันเถอะ
ขอบคุณที่มาดี๊ดี
Greta Thunberg, womenintheworld, ted, Social_Environment
environman, onegreenplane
เครดิตรูป
thailandplus, conference