เป็นที่รู้กันดีในวงการประกันว่าการมีความรู้ครอบคลุมเกี่ยวกับประกันหลายอย่าง ไม่สู้การได้รู้จักกับลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายเพียงไม่กี่คน และการจะสามารถจับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้อย่างเหนียวแน่นนั้นก็ถือเป็นงานยากสำหรับตัวแทนประกันหลายท่าน เพราะคุณไม่ได้ดูแลลูกค้าเพียงคนเดียว การที่จะพลาดข้อมูลสำคัญบางอย่างที่อาจทำให้คุณปิดงานได้สำเร็จจึงเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อย
ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าการจัดการความสัมพันธ์คืออะไร ทำไมถึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับงานขายประกัน รวมถึงพาทุกท่านรู้จักกับเครื่องมือ 5 อย่างที่ช่วยบริการการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและช่วยเหลืองานขายให้กับตัวแทนทั้งหลายได้รู้จักอีกด้วย
การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าคืออะไร?
การจัดการความสัมพันธ์ (Relationship Management) คือการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ผู้ใช้บริการ และคู่สัญญา โดยการใช้กลยุทธ์การสื่อสารและการมีส่วนร่วมระหว่างกัน
การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer relationship management – CRM) มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ผู้ใช้บริการ และคู่สัญญา แต่ไม่ใช่เป็นการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนกับลูกค้าโดยตรงเท่านั้น ยังต้องให้ความสำคัญด้านการสื่อสารการตลาด การทำโปรโมชั่น การซัพพอร์ตงานขายหลังบ้าน เพื่อเป็นการเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าให้ลูกค้าเลือกที่จะวางใจเราและอยู่กับเราไปนาน ๆ
บางครั้งเมื่อคุณกำลังยุ่งกับการหาลูกค้าใหม่หรือจำเป็นต้องเดินทางตลอดเวลา อาจทำให้การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันหลุดไป เนื่องจากตัวแทนจำเป็นต้องมีการรับข้อมูลอัพเดตใหม่ของลูกค้าอยู่เสมอ การจำข้อมูลสลับกันหรือสับสนจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายหากตัวแทนเหล่านั้นไม่ได้มีการจัดการข้อมูลที่เป็นระบบมากพอ ดังนั้นการนำระบบซอฟต์แวร์ CRM ที่ดีเข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าจะช่วยให้ตัวแทนสามารถติดตามบทสนทนาที่เคยมีกับลูกค้าทุกราย ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ข้อผิดพลาดของการทำงานน้อยลง และยังเพิ่มประสิทธิภาพของการหาลูกค้าได้อีกด้วย
การสร้างความสัมพันธ์อันดีงามเพื่อให้ลูกค้าวางใจในตัวเรานั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่วเวลาข้ามคืน คุณจำเป็นต้องทุ่มเทเวลาให้กับการทำความเข้าใจถึงความต้องการและความชอบพิเศษของลูกค้าแต่ละคน เข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาชีวิตประจำวัน แสดงความเป็นห่วงเป็นไยต่อสุขภาพและสถานการณ์บ้านเมือง ทำให้ตัวลูกค้ารู้สึกว่าคุณเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในครอบครัวที่สามารถมอบความไว้วางใจได้ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางบวกที่ยั่งยืนและยาวนาน
ทำไมการจัดการความสัมพันธ์จึงสำคัญ?
การจัดการความสัมพันธ์เป็นการช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ และความไว้วางใจระหว่างลูกค้ากับผู้ให้บริการ ยิ่งมีความสัมพันธ์ระหว่างกันดีเท่าไร การจะเกิดการเลือกซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งมีมากเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบันนี้ลูกค้ามีความต้องการที่จะได้รับประสบการณ์และผลลัพธ์ที่ดีถึงดีมากจากการเข้ารับบริการทุกรูปแบบ หากได้ยินหรือรับรู้ว่าสินค้าหรือบริการไหนมีคอมเม้นไปในทางลบก็มักจะเลือกที่ตัดทิ้งออกจากความสนใจไปทันที ทำให้แม้แต่การเข้ามาทดลองใช้บริการก็ไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้น ดังนั้น การมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าจึงจะเข้ามาเสริมในจุดนี้ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าเลือกที่ได้ยินคอมเม้นไม่ดีเกี่ยวกับสินค้าแต่ด้วยสายสัมพันธ์ที่สนิทกับผู้ให้บริการ จึงเลือกที่จะสอบถามกับผู้ให้บริการมากกว่าเชื่อข่าวและข้อมูลจากแหล่งที่มาไม่แน่นอน
5 เครื่องมือสำหรับบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า
ทุกวันนี้มีเครื่องมือ CRM หลายรูปแบบที่ช่วยสนับสนุนการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าดังเช่นเครื่องมือทั้ง 5 เครื่องมือที่เรายกมาให้รู้จักกันผ่านบทความนี้
1.flok
Folk เป็น CRM ที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ที่ช่วยให้คุณจัดการข้อมูลการติดต่อทั้งหมดได้ในที่เดียว ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการจัดการลูกค้าและผู้ใช้บริการเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันการจ้างงาน การตลาด ประชาสัมพันธ์ การติดตามนักลงทุน การสร้างพันธมิตร การจัดการงานอีเวนต์ และแม้กระทั่งการเป็น CRM ส่วนตัว โดยสามารถใช้งานทุกรูปฟังก์ชันทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์
2.Hubspot
HubSpot เป็นเครื่องมือการตลาดที่ช่วยให้คุณสามารถมีปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าและการสร้างโอกาสในการขายผ่านฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายได้ เช่น การทำการตลาดผ่านอีเมล การรวมบทสนทนาบนโซเชียลมีเดีย และการดูแลลูกค้าเป้าหมาย (Lead Nurturing) นอกจากนี้ HubSpot ยังมีระบบการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณเก็บสติถิและวัดประสิทธิภาพของแคมเปญต่างๆได้
3.Hootsuite
Hootsuite เป็นเครื่องมือการจัดการโซเชียลมีเดียที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมดได้ในที่เดียว โดยมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Social Listening การกำหนดเวลาโพสต์ และรีพอร์ต Hootsuite ยังช่วยให้คุณสามารถติดตามและตรวจสอบการมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้อีกด้วย
4.Mailchimp
Mailchimp เป็นเครื่องมือการทำการตลาดผ่านอีเมลที่ช่วยให้คุณสามารถครีเอทหรือดีไซน์แคมเปญคอนเท้นท์ผ่านเทมเพลตรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยมีฟีเจอร์การแบ่งกลุ่มที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการ หรือปรับให้เป็นอีเมลแบบเฉพาะบุคคลได้ นอกจากนี้ Mailchimp ยังช่วยเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญอีเมลมราถูกส่งออกไปได้อีกด้วยว่ามีผลตอบรับเท่าที่คาดหวังหรือไม่
5.Typeform
Typeform เป็นเครื่องมือสำรวจที่ช่วยให้คุณสามารถรวบรวมข้อเสนอแนะและข้อมูลจากลูกค้าและผู้ใช้บริการ มีเทมเพลตการสร้างคำถามหรือเซอร์เวย์ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้บริการ
สรุป