3 ข้อสังเกตก่อนเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

จากสถิติที่รวบรวมโดยศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมและความปลอดภัยทางถนน พบว่าเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมามีผู้คนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากถึง 880,177 ราย และเสียชีวิตมากถึง 13,448 ราย และมีรายงานเมื่อ 2561 จาก WHO เกี่ยวกับภาพรวมการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยว่าไทยเรามีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และถนนในประเทศไทยถือว่าอันตรายติดอันดับ 9 ของโลกเลยทีเดียว

ซึ่งนี่เป็นเพียงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนเพียงอย่างเดียว ยังไม่นับรวมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานตามสถานที่ทำงานต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก

สถิติที่กล่าวมานี้สะท้อนว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพราะสามารถจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อเราทุกคนไม่สามารถที่จะล่วงรู้ได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราหรือคนที่เราห่วงใยเมื่อไหร่ สิ่งที่เราพอจะสามารถทำได้กับเรื่องนี้ก็คือ การสร้างความมั่นใจให้กับชีวิตและทรัพย์ต่อตัวเราเอง ผ่านการทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ที่ถือว่าเป็นหนทางหนึ่งที่ดีที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในกรณีที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับตัวเรา

แต่อย่างไรก็ดี ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลในปัจจุบันก็มีให้เลือกทำหลายแบบ แล้วจะเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เราจึงมี 3 ข้อสังเกตก่อนเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลมาฝากกัน

3 เรื่องต้องสำรวจก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

1.พิจารณาเรื่องอาชีพของตนเอง

ข้อสังเกตแรกในเรื่องอาชีพของเรานั้น มีความสัมพันธ์กับปัจจัยย่อยที่เราต้องใช้ในการพิจารณาก่อนเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลอยู่ 2 ประเด็นด้วยกันคือ

ปัจจัยด้านความเสี่ยง

หลาย ๆ อาชีพมีลักษณะการทำงานที่อยู่ในความเสี่ยง อย่างคนที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้รถใช้ถนนเป็นประจำ กลุ่มไรเดอร์ กลุ่มคนขับรถส่งของ หรือคนที่ต้องประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม อย่างวิศวกร ช่างไฟฟ้า ช่างอุตสาหกรรม หากคุณอยู่ในกลุ่มอาชีพที่ลักษณะงานโดยธรรมชาติมีความเสี่ยงเช่นนี้ การมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลถือเป็นเรื่องที่จำเป็นเลยทีเดียว

หากกล่าวเช่นนี้ กลุ่มคนที่อยู่ในอาชีพอื่น หรือมีลักษณะการทำงานเป็นพนักงานในออฟฟิศ อาจจะคิดว่าตนเองไม่ได้อยู่ในกลุ่มอาชีพเสี่ยง แบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีประกันอุบัติเหตุก็ได้ อันที่จริงแล้วก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะอย่างที่กล่าวไปตอนต้นอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ขณะที่เดินขึ้นตึกในออฟฟิศเราอาจโชคร้ายสะดุดขั้นบันไดจนตกจากบันไดลงมา ทำให้แขน ขาหักก็เป็นไปได้เหมือนกัน ดังนั้นแม้จะไม่ได้อยู่ในสายงานที่เสี่ยงภัย แต่การพิจารณาซื้อประกันอุบัติเหตุไว้ก็ย่อมทำให้อุ่นใจได้มากกว่า

ราคาเบี้ยประกัน

ปัจจัยข้อนี้ก็จะมีความสัมพันธ์กับเรื่องของอาชีพด้วย เพราะการจะซื้อประกันอุบัติเหตุต่าง ๆ ก็ควรจะพิจารณาเลือกระดับราคาเบี้ยประกันที่สอดคล้องเหมาะสมกับรายได้ของตัวคุณเองด้วย แน่นอนอยู่แล้วว่าใครก็ต้องการการคุ้มครองที่ดีที่สุดเสมอ แต่อย่าลืมว่าความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกันและภาระค่าใช้จ่ายของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ก็อาจสามารถแบ่งสัดส่วนรายได้และเก็บออมเพื่อชำระค่าเบี้ยประกันราคาสูงได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ประกอบอาชีพอิสระรายได้ไม่แน่นอน ก็อาจจะต้องพิจารณาในส่วนนี้กันอย่างรอบคอบอีกครั้ง ต้องประเมินและคำนวณให้ดีว่าจะสามารถรับมือกับเบี้ยประกันระดับไหนได้บ้าง

ปัจจัยในด้านอาชีพนี้จึงถือว่าเป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาให้ละเอียด เพราะจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

2.พิจารณาเรื่องทุนประกัน

ทุนประกันหรือวงเงินในการคุ้มครอง เป็นอีกจุดที่ต้องสังเกตและไม่ควรมองข้าม เพราะจะตัดสินใจทำประกันอุบัติเหตุทั้งทีก็ควรคำนึงด้วยว่า หากคุณประสบอุบัติเหตุและต้องเคลมประกันจริง ๆ คุณจะได้รับความคุ้มครองอะไรกลับมาบ้าง วงเงินในการคุ้มครองนั้นเพียงพอต่อการรักษาพยาบาลมากน้อยเพียงไร เพราะถ้าเลือกวงเงินคุ้มครองที่น้อยเกินไป บางครั้งอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาก็จะทำให้เกิดภาระต่อตัวคุณเองในภายหลัง แต่หากจะเลือกวงเงินคุ้มครองที่สูง ก็อาจจะต้องประกันอุบัติเหตุที่มีราคาค่าเบี้ยประกันสูงไปด้วย การพิจารณาในส่วนนี้จึงต้องประเมินในเรื่องของอาชีพและความเสี่ยงของตัวคุณเองไปด้วยพร้อมๆ  กันนั่นเอง

 3.พิจารณาโรงพยาบาลเครือข่ายในประกัน

ประการสุดท้ายเป็นข้อสังเกตที่หลายคนมักมองข้ามไปในการทำประกันอุบัติเหตุ นั่นคือ เรื่องของโรงพยาบาล ก่อนที่จะพิจารณาซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลใด ๆ ควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนว่ามีโรงพยาบาลใดที่อยู่ในกลุ่มเครือข่ายของประกันนั้น ๆ บ้าง และมีโรงพยาบาลที่ครอบคลุมหรือไม่ ลองนึกดูว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเราจริง ๆ การที่ประกันครอบคลุมโรงพยาบาลหลายแห่งย่อมดีกับการรักษาอาการบาดเจ็บของเราแน่นอน ไม่ต้องเดินทางไปรักษาไกล ๆ ใกล้ที่ไหนก็สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทันที โดยที่ไม่ต้องมาสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อนนั่นเอง

นี่คือข้อสังเกต 3 ประการก่อนเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และสิ่งสำคัญที่อยากจะย้ำเตือนให้ทุกคนพึงตระหนักไว้ก็คือ นอกจากประกันอุบัติเหตุแล้ว การลงทุนซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพไว้ในวันนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องไม่ควรมองข้ามอีกเช่นกัน เพราะเป็นอีกหนึ่งหลักประกันที่จะช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตสำหรับตัวเรา เป็นอีกหนึ่งการวางแผนสำหรับอนาคตที่คุ้มค่า ดังนั้นไม่ว่าจะตัดสินใจทำประกันภัยแบบใดก็ตาม ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราเสมอ เท่านี้เราก็จะได้ประโยชน์จากการทำประกันภัยเพื่ออนาคตของเราเองแล้ว หากต้องการเลือกประกันที่ใช่และลงตัวสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณสามารถดูรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ได้ที่ https://www.noon.in.th/