จากบทความก่อนๆ เราได้ทราบถึงว่าประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถนำมาวางแผนการเงินในด้านต่างๆ ได้หลากหลาย ทราบถึงประกันชีวิตว่ามีกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อจำกัดอย่างไรเหมาะกับใครบ้าง และในบทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประกันชีวิตว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่น่าสนใจ ซึ่งหลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1.ประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้หรือไม่มีเงื่อนไขอย่างไร
เบี้ยประกันชีวิตที่เราจ่ายไปแต่ละปีนั้นสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ประกันชีวิตแบบทั่วไปนอกเหนือจากแบบบำนาญซึ่งได้แก่ แบบตลอดชีพ, แบบสะสมทรัพย์, แบบชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตควบการลงทุน (เบี้ยเฉพาะในส่วนคุ้มครองชีวิตไม่รวมเบี้ยส่วนการลงทุน)
สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีรวมกันได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในกรณีที่กรมธรรม์มีความคุ้มครองชีวิตตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- ประกันชีวิตแบบบำนาญ
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถนำมาลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้หรือ 200,000 บาทแล้วแต่ว่าจำนวนใดจะน้อยกว่าให้เลือกจำนวนนั้น โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมดังนี้
- ในกรณีที่ใช้สิทธิประกันชีวิตแบบทั่วไปยังไม่ถึง 100,000 บาท สามารถใช้สิทธิประกันแบบบำนาญให้ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตแบบทั่วไปและประกันชีวิตแบบบำนาญรวมกันได้สูงสุดถึง 300,000 บาท
- ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันแบบบำนาญ เมื่อนำไปรวมกับกองทุน SSF, กองทุน RMF, กบข./กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- ประกันสุขภาพ
เบี้ยประกันสุขภาพตนเองสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท แต่เมื่อนำมารวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปนอกเหนือจากแบบบำนาญแล้วลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
2.มีปัญหาด้านสุขภาพสามารถทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพได้ไหม
หลายๆท่านมีข้อสงสัยว่าถ้ามีปัญหาด้านสุขภาพ, มีโรคประจำตัว หรือเคยผ่าตัดมาก่อน จะสามารถทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพได้ไหม ถ้าได้จะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็นประกันชีวิตและประกันสุขภาพตามรายละเอียดดังนี้
ประกันชีวิต
ถ้ามีปัญหาด้านสุขภาพ, มีโรคประจำตัว หรือเคยผ่าตัดมาก่อน บริษัทประกันจะมีหลักการพิจารณา 3 ข้อพิจารณาโดยฝ่ายพิจารณาการรับประกันของแต่ละบริษัท ดังนี้
– รับทำประกันชีวิตโดยชำระเบี้ยตามอัตราปกติ
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาแล้วว่าโรคที่เราเป็นหรือเคยเป็น ไม่มีผลกับความเสี่ยงในการเสียชีวิตของเราที่เพิ่มขึ้น เช่นเคยผ่าตัดมาหลายปีและหายเป็นปกติแล้วบริษัทจะพิจารณาว่าเราเป็นบุคคลที่ไม่มีความเสี่ยงว่าจะเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพ ก็จะคิดเบี้ยเท่ากับอัตราปกติ
– รับทำประกันชีวิตโดยชำระเบี้ยเพิ่มจากอัตราปกติ
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาแล้วว่าปัญหาด้านสุขภาพของเรา, โรคที่เราเป็นหรือเคยเป็น มีผลกับความเสี่ยงในการเสียชีวิตของเราที่เพิ่มขึ้น เช่น มีน้ำหนักมากหรือน้อยกว่ามาตรฐานที่กำหนด บริษัทจะพิจารณาว่าเราเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพ ก็อาจจะรับทำประกันแต่พิจารณาเพิ่มเบี้ยจากอัตราปกติ
-ไม่รับทำประกันชีวิต
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาแล้วว่าปัญหาด้านสุขภาพของเรา, โรคที่เราเป็นหรือเคยเป็น มีผลกับความเสี่ยงในการเสียชีวิตของเราแบบมีความเสี่ยงสูงเช่น ทำประกันชีวิตเมื่อทราบว่าเป็นโรคมะเร็ง บริษัทจะพิจารณาไม่รับทำประกันชีวิตเลย
ประกันสุขภาพ
– รับทำประกันสุขภาพโดยชำระเบี้ยตามอัตราปกติ
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาแล้วว่าสุขภาพของเราปัจจุบันไม่มีความเสี่ยงเป็นโรคแล้ว บริษัทจะพิจารณาว่าเราเป็นบุคคลที่สุขภาพแข็งแรง ก็จะคิดเบี้ยเท่ากับอัตราปกติ
– รับทำประกันสุขภาพโดยชำระเบี้ยเพิ่มจากอัตราปกติ
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาแล้วว่าสุขภาพของเราปัจจุบันมีความเสี่ยงเป็นโรค เช่น มีนำหนักมากกว่าหรือน้อยกว่ามาตรฐาน บริษัทจะพิจารณาว่าเราเป็นบุคคลที่อาจจะมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพมากกว่าคนปกติ ก็อาจจะรับทำประกันสุขภาพแต่จะพิจารณาเพิ่มเบี้ยจากอัตราปกติ
– รับทำประกันสุขภาพโดยยกเว้นโรคที่เป็นอยู่หรือเคยเป็น
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาหรือมีการตรวจสุขภาพแล้วพบว่าสุขภาพของเราปัจจุบันมีโรคประจำตัวหรือเคยมีประวัติการรักษา ทางบริษัทประกันอาจพิจารณารับประกันสุขภาพแต่ยกเว้นไม่คุ้มครองโรคที่เป็นอยู่หรือเคยมีประวัติการรักษาและในบางกรณีอาจมีเพิ่มเบี้ยประกันจากปกติด้วย
– ไม่รับทำประกันสุขภาพ
ในกรณีที่บริษัทประกันพิจารณาหรือมีการตรวจสุขภาพแล้วพบว่าว่าสุขภาพของเราปัจจุบันมีโรคประจำตัวหรือเคยมีประวัติการรักษาที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสูง ทางบริษัทประกันอาจพิจารณาไม่รับทำประกันสุขภาพเลยก็ได้
3.ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ต่างจากการฝากเงินในธนาคารไหม อะไรดีกว่ากัน
หลายๆท่านเวลาไปธนาคารหรือเวลาคุยกับตัวแทนอาจจะเคยโดนชักชวนให้ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ โดยมีคำโฆษณาว่าออมเงินไว้กับเราได้ผลตอบแทนมากกว่าธนาคารนะ ลดหย่อนภาษีได้ด้วย จึงเกิดคำถามว่าประกันแบบสะสมทรัพย์ดีกว่าฝากเงินในธนาคารจริงหรือ คำตอบคือ ไม่มีอะไรดีกว่ากัน เพียงแต่เราจะใช้วางแผนการเงินในเรื่องใดเท่านั้นเอง แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียต่างๆกันไป ดังนี้
- ฝากเงินในธนาคาร
ข้อดี
สภาพคล่องสูง ในกรณีถ้าเราต้องการใช้เงินด่วนเราสามารถถอนออกมาได้เลย
ข้อเสีย
ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนน้อย, ลดหย่อนภาษีไม่ได้, ผลตอบแทนที่เป็นดอกเบี้ยต้องเสียภาษี, ไม่มีความคุ้มครองชีวิต
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ข้อดี
ผลตอบแทนเมื่อครบระยะสัญญาสูงกว่าฝากเงิน, ลดหย่อนภาษีได้, ผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษี, มีความคุ้มครองชีวิต
ข้อเสีย
สภาพคล่องต่ำ ถ้าเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินก่อนครบสัญญาต้องรอเวลาเวนคืนกรมธรรม์ 1-2 สัปดาห์กว่าจะได้เงินและอาจขาดทุนเงินต้นได้
โดยสรุปคือ เงินฝากเหมาะสำหรับใช้วางแผนการเงินระยะสั้น (ไม่ถึง 1 ปี) เช่นเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศปีหน้า หรือใช้เป็นเงินสำรองฉุกเฉินโดยทั่วไปควรมีสำรองไว้ใช้จ่ายในการดำรงชีวิต 3-6 เดือน เผื่อไว้ในกรณีที่เราขาดรายได้เช่นโดนออกจากงานกะทันหัน เวลา 3-6 เดือนจะเป็นเวลาที่เราสามารถหางานใหม่หรือหาช่องทางรายได้ใหม่ๆได้ ในขณะที่ประกันแบบสะสมทรัพย์เป็นการฝึกการออมของเราโดยต้องส่งเบี้ยทุกปีจนครบสัญญาแถมมีความคุ้มครอง เหมาะสำหรับการวางแผนการเงินระยะยาว (อย่างน้อยเท่ากับระยะเวลาคุ้มครอง)
ดังนั้นเราควรแบ่งเงินสดไว้ใช้ในยามฉุกเฉินและวางแผนการเงินระยะสั้นก่อน จากนั้นถ้ามีเงินเหลือและเราประเมินตัวเองแล้วว่าเราสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ทุกปีก็สามารถแบ่งเงินมาทำประกันสะสมทรัพย์ได้
4.ยกเลิกประกันชีวิตก่อนครบสัญญาได้ไหม
การยกเลิกสัญญาประกันชีวิตก่อนครบสัญญาสามารถทำได้ 3 วิธีดังนี้คือ
- เวนคืนกรมธรรม์
โดยจะได้รับเงินก้อนตามตารางมูลค่ากรมธรรม์ ซึ่งอาจจะได้น้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไป แล้วสัญญาเป็นอันสิ้นสุด
- การใช้มูลค่าเงินสำเร็จ
เป็นการหยุดจ่ายเบี้ยโดยมีความคุ้มครองตามระยะเวลาเดิมแต่ทุนประกันหรือความคุ้มครองลดลง ตามตารางมูลค่ากรมธรรม์
- การใช้การขยายระยะเวลา
เป็นการหยุดจ่ายเบี้ยโดยมีทุนประกันหรือความคุ้มครองเท่าเดิมแต่ระยะเวลาความคุ้มครองลดลง ตามตารางมูลค่ากรมธรรม์
โดยสรุปคือไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกแบบไหนเราก็จะเสียผลประโยชน์ที่เราพึงได้จากกรมธรรม์รวมถึงอาจขาดทุนเบี้ยที่เราจ่ายไปด้วย ดังนั้นก่อนจะทำประกันทุกครั้งทุกกรมธรรม์ควรศึกษาข้อมูลและความพร้อมในการจ่ายเบี้ยให้ดีๆก่อนการตัดสินใจทำ
จากเรื่องน่ารู้ของประกันชีวิตทั้ง 4 ข้อดังที่กล่าวมาเป็นเรื่องที่ผู้ที่จะทำประกันทุกคนควรรู้เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในการเลือกซื้อประกันชีวิตได้ ก่อนการซื้อประกันทุกครั้งควรศึกษาข้อมูลให้ดีเพื่อที่จะให้ประกันชีวิตทุกกรมธรรม์ที่เราซื้อตอบโจทย์ความต้องการและแผนทางการเงินของเราได้
มองหาประกันชีวิตทั้งทีต้องได้ดีทั้งลดหย่อนภาษี และตอบโจทย์ชีวิต