- ประเทศจีน – ใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกติดตั้งอยู่ในแอปพลิเคชัน we chat และ Alipay ในการติดการเคลื่อนไหวของนักเรียน
- ประเทศสิงค์โปร์ – ให้นักเรียนกลุ่มที่จำเป็นกลับมาเรียนก่อน
- ประเทศเดนมาร์ค – ให้นักเรียนล้างมือทุก 19 นาที
หลักจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศไทยเป็น 0 ต่อเนื่องกันมาหลายสัปดาห์ รัฐบาลจึงคลายล็อกดาวน์ และอนุญาตให้โรงเรียนทั่วประเทศเริ่มกลับมาเปิดเทอมได้อีกครั้ง แต่เปิดเทอมได้ไม่นานก็เกิดเรื่องน่าตระหนกตกใจขึ้น
เมื่อนายทหารจากอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 และพบว่ามีการออกจากโรงแรมที่พำนักไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดระยอง ทำให้ตลาด ศูนย์การค้า และโรงเรียนกว่า 127 แห่งต้องปิดเป็นการเร่งด่วน และในกรุงเทพก็มีกรณีที่คล้ายๆ กันคือ เด็กสาวอายุ 9 ขวบ (ลูกทูตจากซูดาน) ที่เดินทางมายังประเทศไทย และตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่โชคดีที่ไม่ค่อยได้เดินทางออกไปที่ไหนนอกจากที่พำนักของตน ตามคำกล่าวของรัฐบาล
ถึงแม้ว่าคณะทูตจะไม่ได้ออกไปที่ไหน แต่เพื่อความปลอดภัย สถานที่บริเวณใกล้เคียงต่างๆได้พากันปิดเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโควิด-19 ต้องยอมรับเลยว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันมากๆ แต่ทางโรงเรียน และประชาชนก็ยังรับมือได้อย่างมีสติรีบดำเนินการตามมาตรการของทางรัฐได้อย่างฉับไว และในเวลาช่วงเวลาเดียวกันนี้เองที่ต่างประเทศก็เริ่มทยอยทำการเปิดเทอมกันบ้างแล้ว ซึ่งสถานการณ์จะเป็นอย่างไร และมีมาตรการรับมือกับโควิด-19 อะไรบ้างที่น่าสนใจ อย่ารอช้า รีบไปอ่านกันเลย
ประเทศจีนเริ่มประกาศล็อคดาวน์ประเทศตั้งแต่ปลายมกราคมปี 63 นักเรียน นักศึกษากว่า 200 ล้านคน ต้องเปลี่ยนไปเรียนผ่านออนไลน์กันเป็นส่วนใหญ่ และข่าวดีที่จีนรอคอยก็ปรากฏขึ้น เมื่อวัน 18 มีนาคม 63 จีนมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศกลายเป็น 0 ครั้งแรก ทำให้หลายๆ โรงเรียนเริ่มทยอยกลับมาเปิดการเรียนการสอนกันอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นเมษายนปี 63 ที่ผ่านมา โดยมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ประเทศจีนใช้มีคร่าวๆ ดังนี้
- เด็กนักเรียน และเด็กนักศึกษาทุกคนต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานศึกษา
- เด็กนักเรียน และเด็กนักศึกษาทุกคนต้องแสดงคิวอาร์โค้ดที่มีสถานะเป็นสีเขียวเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าไปยังสถานศึกษาได้ ซึ่งคิวอาร์โค้ดนี้เป็นส่วนหนึ่งซอฟต์แวร์ที่ทางรัฐบาลจีนใช้เฝ้าติดตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 คล้ายๆ กับ “ไทยชนะ” ของไทย แต่ต่างกันตรงที่ตัวซอฟต์แวร์จะถูกติดตั้งฝังอยู่ในแอปพลิเคชัน we chat และ Alipay โดยภายในซอฟต์แวร์จะมีโปรแกรมรหัสสุขภาพที่จะบ่งบอกสถานะว่าตัวผู้ใช้งานนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 แค่ไหน โดยสีเขียว หมายถึง ปลอดภัย สีเหลือง หมายถึง เคยมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และยังอยู่ในระยะเวลาที่ต้องกักตัว 14 วัน และสีแดง หมายถึง มีอาการเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งกำลังรอผลการตรวจยืนยัน
- สวมหน้ากากหน้าอนามัย
- เว้นระยะห่าง
- จัดเตรียมแอลกฮอล์สำหรับใช้ล้างมือให้ครอบคลุมทุกสถานที่ในสถานศึกษา
ประเทศสิงค์โปร์ให้นักเรียนทั้งหมดย้ายไปเรียนแบบทางไกล และจะกลับมาเปิดเทอมอีกครั้งได้ในวันวันที่ 19 พฤษภาคม 63 ในกรณีของโรงเรียนรัฐบาล แต่สำหรับโรงเรียนเอกชน หรือนานาชาติจะให้เริ่มทยอยเปิดเทอมอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 63 เป็นต้นไป ซึ่งมาตรการที่ทางสิงคโปร์เตรียมพร้อมไว้รับมือกับโควิด-19 เมื่อยามเปิดเทอมนั้นก็น่าสนใจมากทีเดียว
- คัดสรรว่านักเรียนกลุ่มใดควรจะได้กลับมาเรียนแบบตัวต่อตัวที่โรงเรียนก่อน ซึ่งจะแบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น โดยนักเรียนระดับประถม ระดับมัธยม นักเรียนที่ต้องมีการสอบวัดผลระดับประเทศ และผู้ต้องใช้สถานที่สำหรับการเรียนการสอนในหลักสูตร
- ครู และทุกคนในสถานศึกษาจะต้องสวมใส่หน้ากากอยู่เสมอ
- ปรับเวลาเลิกเรียนให้ต่างกัน เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม
- จัดสถานที่สำหรับการเรียนการสอนให้มีอากาศถายเท และปลอดโปร่ง
- มีการตรวจวัดอุณหภูมิระหว่างวัน และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ประเทศเดนมาร์คประกาศล็อคดาวน์ประเทศเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 63 และในวันที่ 15 เมษายนได้อนุญาตให้โรงเรียนกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ ซึ่งประเทศเดนมาร์คถือว่าเป็นประเทศแรกในยุโรปที่พร้อมกลับมาเปิดเทอมได้อีกครั้ง โดยมาตรการที่ใช้รับมือกับโควิด-19 ยามเปิดเทอมมีคร่าวๆ ดังนี้
- ให้นักเรียนเตรียมอนุบาล และระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 1-5 เปิดเทอมก่อน
- จัดวางโต๊ะเรียนให้ห่างกัน 6 ฟุต
- จัดการเรียนการสอนในที่ที่อากาศถ่ายเท เช่น ในสวน โรงยิม เป็นต้น
- ให้นักเรียนล้างมือทุก 19 นาที
ขอบคุณวีดีโอจาก : Chanel 4 news
ขอบคุณที่มา : news.thaipbs.or.th, bbc.com, sanook.com, weforum.org, businessinsider.com, whichschooladvisor.com