วันลาพร้อม เราจะชักช้าอยู่ใยไปเที่ยวกันดีกว่า แต่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีนะ ต่างประเทศก็ดูเท่ไม่หยอก ในประเทศก็ดูเก๋ไม่เบา เอางี้ถ้ายังเลือกไม่ถูกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนมาฟังประสบการณ์การไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของ noon กันดีกว่า เรื่องนี้มีทั้งสาระดีๆ และเรื่องราวเด็ดๆ รอทุกคนอยู่แน่นอน
การไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกนั้นแสนจะตื่นเต้น เพราะว่าได้เดินทางไปเที่ยวไกลถึงดินแดนปลาดิบ สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน ซึ่งก่อนเดินทางประมาณ 1 เราก็ได้ตระเตรียมจองที่พัก คัดสรรเสื้อผ้าเอาไปถ่ายรูปสวยๆ และเตรียมยาต่างๆ ไปให้พร้อม เพราะการเจ็บป่วยระหว่างที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศเป็นอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อวางแผนค่าใช้จ่ายมากๆ อย่างที่รู้กันดีว่าการป่วยในต่างแดนนั้นนอกจากจะทำให้ทริปจะหมดสนุกแล้ว ในส่วนของค่ายา ค่าหมอก็แพงมากๆ ดังนั้นเตรียมตัวไปให้พร้อมเสียตั้งแต่ก่อนเดินทางก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า
และแล้ววันที่ตั้งตารอคอยก็มาถึง แต่เหมือนภาพที่ฝันว่าจะแลนดิ้งสู่ประเทศญี่ปุ่นอย่างสวยงาม กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้นช่างต่างกันลิบลับ เพราะจู่ๆ ก็มีเสียงประกาศจากทางสนามบินขึ้นมาว่า
“เที่ยวบินที่ xxxxx ที่จะเดินไปยังประเทศญี่ปุ่นเกิดต้องเลื่อนเวลาการเดินทางออกไป ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ”
ครั้งแรก ก็เสียวซะแล้ว ด้วยความกลัวจึงรีบเดินไปที่ไปเคาน์เตอร์ และยิงคำถามรัวๆ ใส่พนักงาน ในใจภาวนาอย่างเดียวขอให้อย่าดีเลย์นาน เพราะกลัวแผนที่วางไว้จะหลุดจากกรอบเวลาที่วางไป ซึ่งคำตอบที่ได้รับจากสายการบินคือ “ทางเราจะรีบหาไฟท์ใหม่ให้ด่วนเลย และเดี๋ยวอีกสักครู่จะมีรถบัสมารับให้ไปพักที่โรงแรมก่อน ถ้าเครื่องพร้อมบินเมื่อไหร่ ทางเราจะติดต่อกลับไปพร้อมกับให้รถไปรับมาที่สนามบินนะคะ” คงทำได้แต่ถอนหายใจยาวๆ และพยายามทำความเข้าใจทางสายการบิน เพราะเขาเองก็คงไม่อยากให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น
หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง ก็ได้ฤกษ์ขึ้นเครื่องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเสียที แต่การเดินทางนั้นก็ดันไม่ได้ราบเรียบอย่างที่คิด เพราะกระเป่าเดินทางที่สมควรควรที่จะได้รับเมื่อเท้าถึงสนามบิน กลับไม่มีให้เห็นแม้แต่เงา ยืนรออยู่ซักพักใหญ่ๆ จึงตัดสินใจเดินไปถามเจ้าหน้าที่ สรุปสั้นๆ ได้ใจความว่ากระเป๋าของเรานั้นจะมาถึงพรุ่งนี้ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้กรอกเอกสารระบุลักษณะของกระเป๋าเราเพื่อเอาไว้ยืนยันรับกระเป๋าในตอนที่เขามาส่งที่โรงแรมในช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ เท่ากับในเช้าวันพรุ่งนี้ และคืนนี้เราจะต้องใส่ชุดเดิม ซึ่งมีการใช้งานมานานแล้วกว่า 20 ชั่วโมงเริ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวแรกในประเทศญี่ปุ่น
แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เหมือนปฏิกิริยายาลูกโซ่เมื่อเหตุการณ์ที่ 1 เกิดขึ้นแล้วเรื่องซวยที่ 2 ก็ย่อมขึ้นตามมา เพราะเรานั้นได้พลาดรถไฟเที่ยวสุดท้ายไปเสียแล้ว ครั้นจะนอนสนามบินก็คงจะไม่สะดวก จะขึ้นรถบัส เที่ยวสุดท้ายก็ออกไปแล้ว คำตอบเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือเหมาแท็กซี่ไปที่พักอย่างเดียว ค่าโดยสารคงไม่ต้องถามเพราะมาหาศาลมาก แต่ถึงแม้จะพบกับวันที่แย่ซักแค่ไหน แต่ก็โชคดีเหลือเกินที่ประกันเดินทางที่ทำไว้ คุ้มครองครอบคลุมไปถึงกรณีที่กระเป๋าเดินทางมาช้าด้วย ซึ่งเอกสารที่เราต้องส่วนใหญ่ที่ต้องใช้ในการเคลมมี ดังนี้
1.รูปถ่าย
ในกรณีเป็นเหตุเกี่ยวกับกระเป๋าให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แนะนำว่าก่อนขึ้นเครื่องทุกครั้งให้ถ่ายรูปกระเป๋าเก็บทั้งก่อนโหลดกระเป๋า และหลังรับกระเป๋า
2. ใบเคลม สามารถขอได้จากตัวแทนประกัน หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของบริษัทประกันที่เราทำ
3. หลักฐานจากสายการบิน โดยในกรณีที่เกิดเหตุต่างๆ อย่างเช่น กระเป๋าล่าช้า ให้เรารีบไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราใช้บริการทันทีเพื่อขอหลักฐานจากทางสายการบินมายืนยันกับทางประกัน
4.สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก (สำหรับโอนค่าสินไหมทดแทน)
5. สำเนาอื่นๆ เช่น บันทึกประจำวันตำรวจท้องที่ที่เกิดขึ้น (กรณีสูญหาย) ใบเสร็จรับเงินของทรัพย์สินที่สูญหายหรือเสียหาย
การเดินท่องไปท่องเที่ยวที่ใดๆ ในโลกก็ตามล้วนมีความเสี่ยงและเราก็เลี่ยงความเสี่ยงนั้นไม่ได้ด้วย แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงนั้นๆ