2 นาที

6 เครื่องมือช่วยชีวิตตัวแทนประกัน

แชร์

การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับงานขายประกันสามารถช่วยเหลือตัวแทนหรือนายหน้าขายประกันให้ประสบความสำเร็จในงานขายได้สูงเป็นพิเศษ เพราะเราไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยบทความนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือสำคัญ 6 อย่างที่ผู้ขายประกันควรมีให้พร้อม

1.CRM Software
ชุดซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าและจัดการงานขายอย่างเป็นระบบเพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดการและจัดระเบียบข้อมูลลูกค้า สามารถติดตามการโต้ตอบของลูกค้า จัดเก็บเอกสารสำคัญ และตั้งค่าการแจ้งเตือนการติดตามได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเพื่อเป็นข้อมูลในการนำมาวิเคราะห์เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างผลกำไรในระยะยาวได้อีกด้วย
ต้วอย่างเครื่องมือ CRM ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขาย:
  • HubSpot
  • Salesforce
  • Pipedrive
  • Oracle
2.AMS software
เทคโนโลยีที่ตัวแทนประกันภัยใช้ในการจัดระเบียบบัญชีธุรกิจ สร้างโอกาสในการขายและจัดการการขาย และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการสร้างระบบเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของตัวแทนประกันภัย บ่อยครั้งที่ AMS มีไว้สำหรับการประกันภัยเฉพาะกลุ่ม เช่น ประกันวินาศภัย หน่วยงานประกันชีวิต สุขภาพ หรือ Medicare
ต้วอย่างเครื่องมือ AMS ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขาย:
  • Vertafore
  • Partner Platform
  • ZyWave
  • Better Agency
  • Radiusbob
3.Social Media Management Tools

ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางโซเขียลมีเดียกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับงานขายประกัน ดังนั้นการเลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใช้เป็นประจำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวแทนประกันสามารถใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำการสื่อสารการตลาดไปสู่ลูกค้าได้อย่างง่ายดาย

แต่การทำการตลาดบน Facebook, Instagram, TikTok, LinkedIn และ X (Twitter) อาจเป็นเรื่องยากสำหรับตัวแทนประกันที่ไม่ค่อยมีเวลาจัดการเรื่องหน้าบ้าน เครื่องมือการจัดการโซเชียลจะช่วยคุณจัดการ Account ต่างๆที่คุณมีอยู่ได้จากแพลตฟอร์มเดียว สามารถอัพเดตคอนเท้นให้กับผู้ติดตามได้อัตโนมัติ ช่วยคุณประหยัดเวลาที่จะต้องดูแลช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี

ต้วอย่างเครื่องมือบนโซเชียลมีเดียที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขาย:
  • HootSuite
  • Buffer
  • Sprout Social
  • SocialPilot
4.Cross-channel Communication Tools
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในงานขาย จะขายได้หรือไม่ได้นั้นสามารถตัดสินกันได้ด้วยการสื่อสารเพียงไม่กี่นาที ยิ่งคุณสามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายได้มากเท่าไรยิ่งเพิ่มโอกาสสำเร็จทางการขายได้มากเท่านั้น ดังนั้นตัวแทนประกันจึงควรลงทุนในเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารได้ เช่น โปรแกรมการประชุมผ่านวิดีโอ E-Newsletter ระบบส่งข้อความทันที และอื่น ๆ
ด้วยแพลตฟอร์มมากมายที่มีอยู่ การใช้เครื่องมือสื่อสารข้ามช่องทางช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารกับลูกค้าทุกรูปแบบเหล่านี้ได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว สามารถติดตามอีเมล ข้อความ หรือความคิดเห็นได้ไม่พลาดแม้แต่ฉบับเดียว
ต้วอย่างเครื่องมือสื่อสารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขาย:
  • MobileMonkey
  • Google Meet
  • MailChimp
  • Constant Contact
  • HubSpot CRM
5.Office organization software

เมื่อบ้านกลายเป็นสำนักงานมากขึ้น คุณควรเตรียมซอฟต์แวร์สำหรับสำนักงานทั้งหมดที่จำเป็นไว้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับจดบันทึก ทำรายการ หรือลงนามในเอกสาร แบบที่ดีที่สุดควรเป็น Cloud หรือ Web-based ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาที่จำเป็นต้องใช้ ดังนั้นงานทั้งหมดของคุณจะได้รับการบันทึก สำรองข้อมูล แม้ว่าไฟจะดับหรือคอมพิวเตอร์มีปัญหาก็ตาม

ต้วอย่างซอฟต์แวร์สำหรับสำนักงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขาย:
  • Google Workspace เช่น Google Docs
  • Microsoft To Do
  • DocuSign
  • Adobe Scan
  • Trello
6.Quote software
เครื่องมือสร้างใบเสนอราคาสามารถช่วยให้คุณสร้างใบเสนอราคาได้อย่างรวดเร็วเมื่อลูกค้าคุณต้องการใบเสนอราคาเดี๋ยวนั้น อีกทั้งสามารถแก้ไขและปรับเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างง่ายดาย เมื่อลูกค้าต้องการเปรียบเทียบราคาจากแผนแบบต่างๆ ที่แตกต่างกัน โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
ต้วอย่างเครื่องมือสร้างใบเสนอราคาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานขาย:
  • Salesforce CPQ
  • PandaDoc
  • QuoteWerks
  • Quotient
  • EZLynx
ในฐานะตัวแทนประกันสุขภาพ การมีเครื่องมือดิจิทัลที่สามารถช่วยเหลือการทำงานของคุณได้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสสำเร็จทางการขายได้อย่างมาก ซึ่งเครื่องเหล่านี้มักเป็นเครื่องมือที่เป็นปัจเจกซึ่งอาจทำให้ตัวแทนประกันต้องวุ่นวาย หรือเสียค่า subscription หลายบาทต่อเดือนเพื่อให้สามารถใช้งานเครื่องมือได้ครอบคลุมตามที่เรากล่าวมา ซึ่งคงจะดีกว่าถ้าความสามารถของเครื่องเหล่านั้นมารวมกันไว้ที่แอปเดียว
friday แอปเลขาดิจิทัลของตัวแทนประกันมือโปร ที่จะช่วยให้ตัวแทนประกันสามารถทำงานได้ไหลลื่น จบครบทุก flow ได้ที่แอปเดียว ไม่ว่าจะเป็นการบริหารข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกสบาย สรุปกรมธรรม์ได้ง่ายไม่กี่คลิ๊ก หรือจะเป็นการสร้างโอกาสในขายด้วยการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้าผ่านฟีเจอร์วางแผนการเงินบน friday ที่ได้รับการการันตีจากนักวางแผนการงิน CFP สามารถทดลองใช้ใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ ซึกษารายละเอียด และทดลองใช้ได้แล้ววันนี้ คลิกเลย https://bit.ly/3d7B356
friday แอปเลาขาดิจิทัลของตัวแทนประกันมืแโปร

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

น้ำท่วมบ้านเสียหายหนัก เคลมประกันภัยบ้านอย่างไรดี

ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมเฉียบพลันเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถสร้างความสูญเสีย "บ้าน” ของเราได้อย่างมากมาย แต่ถ้าใครที่ทำประกันภัยบ้านไว้ก็ก็ไม่ต้องกังวล เพราะประกันนี้จะช่วยเราแบ่งเบาภาระค่าซ่อมแซมบ้านให้ ซึ่งวิธีการเคลมประกันภัยบ้านนั้นก็ง่ายแสนง่ายมีเพียง 7 ขั้นตอนเท่านั้น

เริ่มทำประกันสุขภาพตอนไหนดี?

การทำประกันสุขภาพถือเป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงทางชีวิตและการเงินที่มีผลประโยชน์ในระยะยาว แต่จะเวลาไหนถึงควรจะทำประกันสุขภาพดีล่ะ? พอไปปรึกษาเพื่อนหรือครอบครัว บางคนก็บอกว่าให้ทำประกันตั้งแต่เด็กเลยเพราะเบี้ยน้อย บางคนก็บอกว่ารอให้มีทุนก่อนดีกว่าไม่อย่างนั้นอาจจะเข้าเนื้อ คิดไปคิดมาก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าแล้วมันควรทำตอนไหนดี วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปดูแนวทางที่ใช้พิจารณาในการตัดสินใจเริ่มทำประกันสุขภาพกันเพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดกันค่ะ