การเดินทางท่องเที่ยวที่เราคาดหวังไว้อย่างดีว่าจะต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นสนุกสนานอาจจะกลายเป็นฝันร้ายได้แบบไม่ทันตั้งตัวหากมีอุบัติเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น กระเป๋าเดินทางเสียหาย สูญหาย หรือมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนอยากเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเราก็ไม่มีทางรู้ว่าหวยจะมาออกที่เราหรือเพื่อนในกลุ่มเราเมื่อไร
การเตรียมตัวข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเคลมกระเป๋าเดินทางจึงถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันนี้ได้อย่างไม่ตื่นตระหนดตกใจจนเกินไป เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น บทความนี้จะแนะนำ 5 ข้อควรรู้ก่อนเคลมกระเป๋าเดินทาง เพื่อช่วยให้คุณเคลมได้อย่างถูกต้องและไม่เสียผลประโยชน์ใดไปโดยไม่รู้ตัว
- ตรวจสอบประกันการเดินทาง
ก่อนเดินทางไปไหนควรตรวจสอบว่าประกันการเดินทางที่ตั้งใจจะซื้อหรือมีอยู่เดิมครอบคลุมการเคลมความเสียหายหรือการสูญหายของกระเป๋าเดินทางไหม รวมถึงเช็คขอบเขตความคุ้มครองของประกันให้ดี เช่น มูลค่าของการชดเชยหากล่าช้า หรือเกิดความเสียหายขึ้นกับทรัพย์สินภายในกระเป๋า - เก็บหลักฐานการแสดงความเป็นเจ้าของกระเป๋าและมูลค่าสิ่งของในกระเป๋าให้ดี
ควรเก็บใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการซื้อกระเป๋าและสิ่งของภายในกระเป๋าไว้เสมอ เพื่อยืนยันมูลค่าความเสียหายหรือสูญหายต่อสายการบินหรือบริษัทประกัน เพื่อความสะดวกราบรื่นในการดำเนินการ - แจ้งสายการบินทันทีที่เกิดปัญหา
หากกระเป๋าได้รับความเสียหายหรือล่าช้าจนเกินไป ควรรีบแจ้งให้สายการบินทราบทันทีเมื่อพบปัญหาดังกล่าว อย่าลืมขอเอกสารยืนยันกระเป๋าเสียหายหรือสูญหายจากทางสายการบินเพื่อนำไปเป็นหลักฐานการเคลมกับประกัน - ตรวจสอบเงื่อนไขการเคลมของสายการบิน
แต่ละสายการบินมีเงื่อนไขการเคลมกระเป๋าเดินทางที่แตกต่างกัน ควรอ่านและทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายของสายการบินนั้น ๆ อย่างละเอียด เช่น ระยะเวลาการยื่นเรื่องเคลม วิธีการเคลม และเอกสารที่จำเป็น - เตรียมเอกสารและหลักฐานให้ครบถ้วน
การเคลมกระเป๋าต้องใช้เอกสารหลายอย่าง เช่น ตั๋วโดยสาร, บัตรขึ้นเครื่อง, ใบเสร็จรับเงินการซื้อของในกระเป๋า, รูปภาพแสดงความเสียหาย, และแบบฟอร์มการเคลมจากสายการบิน ควรเตรียมเอกสารข้างต้นให้ครบถ้วนเพื่อให้สามารถเคลมได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
