ยุคนี้ ใครๆ ก็อยากจะมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่ถ้าคิดจะมีกิจการเป็นของตัวเองแล้วต้องไม่ลืมศึกษาเรื่องภาษีด้วยนะ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ที่เจ้าของกิจการหลายๆ คนพลาดมาแล้ว!
วันนี้ noon ขอแนะนำภาษีทั้ง 5 ประเภทที่เจ้าของกิจการ หรือนักธุรกิจทั้งหลายต้องรู้จักและต้องชำระให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าใครยังไม่รู้จัก ต้องรีบไปศึกษาแล้วนะ 
1.ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ตามแบบ ภ.ง.ด.50) 

เจ้าภาษีตัวนี้เป็นภาษีที่สรรพากรจะเรียกเก็บจากนิติบุคคลซึ่งจะเก็บกับคนที่ทำธุรกิจที่จดทะเบียนธุรกิจในรูปแบบบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน โดยภาษีเงินได้นิติบุคคล 
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลมี 2 ประเภท ดังนี้
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไปอัตราภาษี 20%
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล(SME) ที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ตลอดทั้งปีไม่เกิน 30 ล้านบาท จะได้รับอัตราภาษีพิเศษ ดังนี้ 
| กำไรสุทธิ | อัตราภาษีร้อยละ | 
| ไม่เกิน 300,000 บาท | ยกเว้น | 
| เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท | 15 | 
| เกิน 3,000,000 บาท ขึ้นไป | 20 | 
วิธีคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล 
กำไรสุทธิ x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องชำระ 
2.ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ตามแบบ ภ.ง.ด.53) 

ภาษีประเภทนี้เป็นภาษีที่ถูกหักไว้ล่วงหน้าแล้ว เราจึงสามารถขอคืนภาษีประเภทนี้ได้หากชำระไว้เกิน เพราะตัวกฎหมายกำหนดว่าให้คนที่จ่ายเงินให้กับกิจการของเรา หรือคู่ค้าที่จ่ายเงินให้กับเรานั้นมีหน้าที่หักภาษีไว้เมื่อมีการจ่าย ซึ่งเป็นไปตามประเภทของเงินได้ และตามอัตราภาษีที่กำหนด
| ประเภทของเงินได้ | ผู้รับเงิน | อัตราภาษีที่กำหนด | 
| ค่านายหน้า และ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 3.0 | 
| มูลนิธิหรือสมาคม | ร้อยละ 10.0 | |
| ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ย ตั๋วเงิน | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 1.0 | 
| มูลนิธิหรือสมาคม | ร้อยละ 10.0 | |
| ให้เช่าทรัพย์สิน | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 5.0 | 
| มูลนิธิหรือสมาคม | ร้อยละ 10.0 | |
| เงินได้จากวิชาชีพอิสระ ตามมาตรา 40 (6) | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 3.0 | 
| มูลนิธิหรือสมาคม | ร้อยละ 10.0 | |
| เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกำไรหรือประโยชน์อื่นใด | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 10.0 | 
| ค่าจ้างทำของที่เข้าลักษณะเป็น เงินได้พึงประเมินตาม – มาตรา 40 (7) แห่งประมวล รัษฎากร – มาตรา 40 (8) แห่งประมวล รัษฎากรการรับจ้างทำของ | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 3.0 | 
| เงินจากการประกวด แข่งขัน ชิงโชค หรือการอื่นอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 5.0 | 
| ค่าโฆษณา | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 2.0 | 
| เงินได้จากการให้บริการ/การจ่ายค่าโดยสารสำหรับการขนส่งสาธารณะ /การจ่ายค่าบริการโรงแรม และภัตตาคาร/การจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 3.0 | 
| รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 3.0 | 
| ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการรับประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยในประเทศไทย | ร้อยละ 1.0 | 
| ค่าขนส่ง แต่ไม่รวมถึงการจ่าย ค่าโดยสารสำหรับการขนส่ง สาธารณะ | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (ยกเว้นมูลนิธิหรือสมาคม) | ร้อยละ 1.0 | 
| การจ่ายเงินได้ จากการซื้อขายสินค้า ประเภท ยางแผ่น หรือยางชนิดอื่นจาก ต้นยางพารา มันสำปะหลัง ปอ ข้าว ข้าวโพด อ้อย เมล็ดกาแฟ ผลปาล์มน้ำมัน | บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล | ร้อยละ 0.75 | 
3.ภาษีมูลค่าเพิ่ม 

หลายคนคุ้นๆ กับภาษีประเภทนี้ เพราะเคยได้ยินจากการซื้อของกินของใช้ทั่วไป ซึ่งเราต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยภาษีประเภทนี้จะเก็บจากมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นจากคนทำธุรกิจหรือคนที่ให้บริการต่างๆ โดยผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มนี้ ก็คือ ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ ฯลฯ ที่มีรายได้/ยอดขายตั้งแต่ 1,800,000 บาท/ปี ขึ้นไป ไม่ว่ากิจการนั้นจะเป็นในรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
วิธีคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม   
ราคาสินค้า/บริการ x 7% = ภาษีมูลค่าเพิ่ม
หมายเหตุ 
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ที่เราถูกเรียกเก็บนั้นเป็นการเรียกเก็บจาก 2 ส่วนคือ  
- ส่วนแรก : ส่วนของรัฐเก็บ 6.3% ตามที่พ.ร.ฎ.กำหนด
- ส่วนที่สอง : ส่วนของเทศบาลแต่ละท้องที่เก็บ 1/9 ของส่วนแรก
ทำให้สุทธิแล้ว เราจะเสียทั้งหมด 6.3% บวกกับ 1/9 x 6.3% = 0.7% เป็น 7% สุทธิ จริง ๆ แล้วกฎหมายบัญญัติอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10% แต่ทุก ๆ สองปี (รวมถึงในปัจจุบัน) มักจะมี พระราชกฎษฎีกา ออกมาเพื่อลดอัตราดังกล่าวลงมาเหลือ 7%
อ่านเพิ่มเติมเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มต่อที่ talkToKasidis
4.ภาษีธุรกิจเฉพาะ 

ภาษีประเภทนี้จะถูกเก็บในธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงเช่น  ธนาคารพาณิชย์ โรงรับจำนำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ถ้าเจ้าของกิจการคนไหนที่ไม่ได้ทำกิจการที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขต้องเสียภาษีประเภทนี้ก็สามารถปล่อยผ่านแบบชิลๆ ได้เลย 
อ่านเรื่องฐานภาษีและอัตราภาษีเพิ่มเติม
5.อากรแสตมป์ 

อากรแสตมป์เป็นภาษีที่คนทั่วไปมักไม่ค่อยคุ้นชื่อกันเท่าไหร่ ซึ่งจะเรียกเก็บเมื่อมีการทำตราสารระหว่างกัน ใน 28 ลักษณะที่เค้ากำหนดไว้ถ้าเจาะลึกอาจจะยาวววววว เราสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของสรรพากรได้เลยที่ www.rd.go.th 
ขอบคุณที่มา : Taxbugnoms – Ep.4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล คำนวณแบบไหน? วางแผนอย่างไร?, กรมสรรพากร, คู่มือการหักภาษี ณ ที่จ่าย,

