เวลาไปท่องเที่ยวต่างประเทศเราต่างรู้กันดีว่าหากล้มป่วยหรือบาดเจ็บร้ายแรงขึ้นมาระหว่างการเดินทางนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความไม่คุ้นเคยกับระบบสาธารณสุข เรื่องภาษาที่ทำให้สื่อสารกันลำบาก การขอเข้าพบแพทย์ที่ทำได้ยากหากไม่ร้ายแรงจริง ๆ และเรื่องที่น่ากลัวเป็นที่สุดอย่างเรื่องค่ารักษาที่แพงหูฉี่ แต่อุบัติเหตุก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะหลีกเลี่ยงได้เสมอไป
การมีประกันภัยการเดินทางเอาไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นการไปเพื่อพักผ่อนหย่อนใจแค่สองสามวันหรือการออกทริประยะยาวหลายเดือน อีกอย่างที่สำคัญและควรรู้ไว้คือเรื่องของการเคลมประกัน หลายคนคงมีประกันเผื่อไว้แต่ไม่ทราบถึงขั้นตอนการเคลมประกันโดยละเอียด ดังนั้นวันนี้เราจะมาพาทุกท่านไปเรียนรู้วิธีการเคลมประกันการเดินทางอย่างเข้าใจง่ายกัน
ขั้นที่ 1 ติดต่อบริษัทประกันที่คุณทำไว้
หากเกิดอุบัติเหตุหรือป่วยร้ายแรงให้รีบติดต่อบริษัทประกันภัยที่คุณทำไว้ให้เร็วที่สุด ทางบริษัทประกันอาจมีการถามคำถามคุณประมาณหนึ่งสำหรับอาการป่วยหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามตอบคำถามทั้งหมดให้ครบที่สุดเท่าที่สามารถตอบได้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ขั้นที่ 2 จัดเตรียมเอกสาร
การเคลมประกันการเดินทางกรณีที่เจ็บป่วย หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเราสามารถทำได้ 2 วิธีคือ 1.“บริษัทประกันภัยจ่ายให้” ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้เวลานานในการดำเนินการ คนส่วนใหญ่จึงเลือกใช้เป็นวิธีที่ 2 คือการ “สำรองจ่ายก่อน” และเมื่อเดินทางกลับมาก็สามารถเดินเรื่องเคลมประกันการเดินทางได้เลย ซึ่งเอกสารสำคัญที่ต้องใช้มี ดังนี้
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทฯกำหนด
- รายงานการเจ็บป่วยจากแพทย์ หรือ แบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันเดินทางต่างประเทศส่วนที่แพทย์ได้กรอกข้อความในส่วนของใบรับรองแพทย์ที่แพทย์ได้กรอกข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
- ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
- สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เอาประกันภัย
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี (กรณีให้โอนเงินเข้าบัญชี)
- เอกสารอื่นๆที่บริษัทฯร้องขอตามความจำเป็น
ขั้นที่ 3 ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาว่าคุณมีประกันการเดินทางอะไรบ้าง และอย่าลืมขอรายงานผลตรวจร่างกหายโดยละเอียดเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอเคลมประกัน
ขั้นที่ 4 แจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุ
หากประสบอุบัติเหตุให้แจ้งความกับสำนักงานตำรวจในสถานที่ ๆ คุณอยู่ปัจจุบัน พร้อมขอรับสำเนาใบแจ้งความของตำรวจ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอเคลมประกัน
ขั้นที่ 5 กรอกฟอร์มยื่นขอเคลมประกัน
กรอกเอกสารแบบฟอร์มการเคลมประกันที่ทางบริษัทประกันภัยจะจัดเตรียมให้ พร้อมแนบเอกสารที่ทางบริษัทประกันขอทั้งหมดโดยเร็วที่สุด โดยแต่ละบริษัทประกันภัยมีการกำหนดระยะเวลาในยื่นขอเคลมหลังเกิดอุบัติเหตุไม่เท่ากัน อย่าลืมสอบถามเรื่องระยะเวลาให้มั่นใจและรีบยื่นเรื่องให้ไวที่สุด เพื่อให้สามารถเคลมค่าสินไหมได้ครบถ้วน
ขั้นที่ 6 เก็บสำเนาเอกสารทุกอย่าง
ถ่ายสำเนาเอกสารทั้งหมดที่ทางบริษัทประกันขอเก็บไว้กับตัวอีกหนึ่งชุด พร้อมเก็บบันทึกการติดต่อสื่อสารกับบริษัทประกันภัย รวมถึงวันที่และชื่อของตัวแทนที่ติดต่อด้วย เพื่อที่จะได้ใช้เป็นหลักฐานประกอบหากเกิดปัญหาติดขัดระหว่างการดำเนินการหรือการดำเนินการไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ
ขั้นที่ 7 ทำความเข้าใจในแบบประกัน
ศึกษากรมธรรม์ประกันภัยของคุณก่อนเดินทางอย่างละเอียดว่าครอบคลุมในเรื่องใดบ้าง ต้องติดต่อช่องทางใดหากเกิดเหตุ มีระยะเวลากี่วันสำหรับดำเนินการ แต่ละกรมธรรม์มีรายละเอียดต่างกันทำให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน และกรมธรรม์บางฉบับอาจกำหนดให้ผู้รับประกันต้องชำระค่าใช้จ่ายบางอย่างล่วงหน้าแล้วจึงคืนเงินให้ในภายหลัง ดังนั้นหากคุณไม่ทราบเรื่องนี้และมีเงินไม่พอสำรองจ่ายไปก่อนคงเป็นปัญหาต่อตัวคุณมากทีเดียว
การเคลมประกันภัยการเดินทางเมื่อเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางจะต้องติดต่อกับผู้ให้บริษัทประกันทันที จัดเตรียมเอกสารอย่างละเอียด ขอเอกสารรับรองการรักษาจากแพทย์ อย่าลืมไปแจ้งความในสถานที่เกิดเหตุและเก็บสำเนาเอกสารทุกอย่างไว้ด้วย สุดท้ายคือต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรมธรรม์ของคุณให้เข้าใจเพื่อที่จะได้ดำเนินการตามกระบวนการได้อย่างราบรื่นรวดเร็ว
ขอบคุณที่มา
https://www.msig-thai.com/th/claims/personal-insurance/travel